วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สรุป IoT Trends 2018

ในปีนี้ที่หลายคนคาดการกันว่า IoT จะมีปรากฏการหลายอย่างซึ่งเราจะเห็นว่าปีนี้ อุปกรณ์ทีเชือมต่ออินเตอร์เน็ต หรือ สื่อสารกับ โมบายมากขึ้น แต่เอาเข้าจริง ๆ ปีนี้สิ่งของที่เชื่อมต่ออินเตอร์ ดูเหมือนจะเติบโตไปอย่างช้าๆ มาดูว่ามีอะไรที่เติบโตขึนไปบ้าง

Smart Home
ปีนี้ smart home จะชัดเจนกว่าใครเราจะเห็นคอนโด บ้าน ใส่อุปกรณ์ อัจฉริยะมาก ขึ้นในหลายๆ โครงการ อุปกรณ์ที่นิยมก็จะเป็นข้อมูลการใช้ไฟฟ้า การเปิดปิดอุปกรณ์ เช่น smart Plug เครื่องฟอกอากาศปรับการไหลเวียนอากาศในบ้าน

Smart fram
การเติบโตของ Smart Farming ในปีนี้ดูเหมือนไม่ค่อยเติบโตเท่าที่ควร เพราะการลงทุนกับอุปกรณ์ยังสูงอยู่ ยอดขายโดรนที่ใช้พ่นยา ก็มีขายได้บ้าง แต่การพ่นยาก็ไม่ได้ทำบ่อยเท่ากับการรดน้ำ  เกษตรกรยังคงใช้วิธีตั้งเวลาเปิดปิดมากกว่าที่จะติด อุปกรณ์ อัจฉริยะ แบบให้รถน้ำเอง แต่ก็มีแนวโน้มว่า การปลูกต้นไม้บนที่พักอาศัยเช่นคอนโดที่นิยมเลี้ยงแคนตัส จะมีการใช้อุปกรณ์ มือ ถือสั่งรถน้ำต้นไม้ มีอุปกรณ์ที่ขายแล้วเช่น กระถางต้นไม้จาก mi เครื่องรถน้ำขนาดเล็กสั่งการผ่านมือถือ  เครื่องฟักไข่อัตโนมัติ

Smart Health
ในด้านสุขภาพเราจะเห็นการลงทุนเรื่อง Iot กันอยู่บ้างเพื่อต้องการรับข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยในรถฉุกเฉิน และส่งข้อมูลของอุปกรณ์เหล่านั้นไปยังโรงพยาบาล เช่นตำแหน่งรถเพื่อส่งข้อมูลในการบริหารการเดินทางของรถที่มีผู้ป่วยติดไฟแดง อุปกรณ์การแพทย์รุ่นเก่า ก็มีการศึกษาถึงการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เพื่อส่งข้อมูลไปถึงโรงพยาบาล

IIoT
ในด้านอุตสาหกรรม ช่วงนี้อาจจะยังไม่เห็นทิศทางเท่าที่ควรว่าจะเติบโตไปในทางใดแต่เครื่องจักรรุ่นใหม่จะมีการเก็บและส่งข้อมูลกันแล้ว เพื่อตรวจสอบการทำงานย้อนหลัง

I beacon และ  Eddystone
อุปกรณ์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปี 2018 แต่ ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรอย่างเช่น อุปกรณ์  ที่เรียกว่า BLE เพราะการใช้งานผู้รับต้องเปิด สัญญาณบูลทูธตลอดเวลา และที่สำคัญ BLE ต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ อาจจะสอง ปีแล้วค่อยเปลี่ยนก็จะไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานแต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ยังอยู่ในเทรนที่น่าจะเติบโตได้


วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

5G มาแน่ จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

ไม่ต้องคาดเดาครับว่าความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือนั้นจะก้าวเข้าสู่ยุค 5G อย่างแน่นอน ความเร็วที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี 4G จะทำให้การโอนถ่ายข้อมูลมีความเร็วอย่างน้อย 1 Gbps (กิกะบิตเปอร์เซค)แต่ 5G มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 20 Gbps และมีความหน่วงเวลาที่น้อยกว่า 10 มิลลิวินาที

การมี 5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมหลายด้านเพราะบริการใหม่ที่อยู่ในระบบคลาวจะทำให้เกิดสิ่งที่ในอดีตนั้นทำไม่ได้  เช่นการเรนเดอร์ภาพแล้วส่งกลับมาทางผู้ใช้ ก็จะทำได้แบบเรียวไทม์ และคาดการณ์กันว่าในยุค 5G แอพพลิเคชั่นต่างๆจะอยู่บนคลาวเกือบทั้งหมดแทบจะไม่ต้องติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์

การเติบ การเติบโตของอินเตอร์เน็ตอ๊อฟติง (Iot) จะชัดเจนมาก จะเห็นแอพพลิเคชั่นบางอย่างที่เคยสั่งการจากภายนอกและเปิดปิดอุปกรณ์ภายในบ้านจะไม่หน่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันยังมีความหน่วงเวลาอยู่ตามความเร็วของเครือข่าย เมืออัตราการหน่วงเวลานั้นเพียงแค่ 0.5 มิลลิวินาที  การสั่ง การสั่งเปิดปิดไฟจะใช้เวลาในลักษณะเรียวไทม์

ในโรงงานอุสาหกรรม ที่มีการใช้หุ่นยนต์จะสามารถเชื่อมต่อกันบนคลาวน์จะเป็นแบบเรียวไทม์ก็จะทำให้สำนักงานใหญ่ที่อยู่ในต่างประเทศสามารถตรวจสอบระบบงานและวัดประสิทธิภาพของการผลิตในโรงงานได้แบบเรียวไทม์  สามารถควบคุมการผลิตและอัพเกรดซอฟต์แวร์ได้รวดเร็ว

รถยนต์ก็จะมีปกรณ์เซ็นเซอร์เชื่อมต่อกับคราวด์ เพื่อการควบคุม และสื่อสาร นั่หมายความว่ารถยนต์ไร้คนขับก็จะเป็นจริงมากยิ่งขึ้น อุปกรณ์ GPS สำหรับรถยนต์จะเชื่อมต่อคราว์ดและประมวลผลเลือกเส้นทางที่เหมาะสม

อุปกรณ์ประเภทกล้อง CCTV ซึ่งปัจจุบันการเชื่อมต่อเพื่อให้ได้ภาพความคมชัดสูงยังคงต้องพึ่งพาสายเคเบิล แต่ต่อไปในอนาคต กล่องวงจรปิดตามท้องถนน ก็จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบ Smart ซิตี้ผ่านระบบไร้สายส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วทำให้กล้องซีซีทีวีนั้นจะติดตั้งเข้าไปถึงในซอยหรือได้บริเวณครอบคุมมากขึ้นได้ หรือที่เข้าถึงได้ยากเพราะไม่ต้องเดินสายไกล

เมื่อพูดถึง Iot อุปกรณ์เซ็นเซอร์เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจะเยอะมากที่คาดการณ์กันว่าการส่งข้อมูลจะเป็นแบบสตรีม ไม่ต้องแบ่งเป็นส่ง 10 วินาทีครั้งซึ่งเราจะเรียกว่า Edge computing จะทำงานร่วมกับ คราว์ด Big data และ AI จะ

เราจะได้เห็น เราจะได้เห็นคนใช้แว่น AR มากขึ้นเนื่องจากว่าเขาสามารถที่จะประมวลผลรูปภาพส่งมาแสดงที่แว่นได้อย่างรวดเร็วซึ่งการประมวลผลแบบเรียวไทม์จะถูกนำมาเชื่อมต่อกับการวิเคราะห์ข้อมูลหรือร่วมกับหุ่นยนต์ จะทำให้ผู้ใช้งานนั้นมีความราบรื่นมากขึ้น

ยกตัวอย่างบริษัทLockheed Martin มีการใช้เออาร์เพื่อสร้างเครื่องบินเจ็ตเอฟสามห้า ด้วยการแสดงผลบนแว่นที่คนงานสวมใส่ทำให้เห็นได้ว่าแต่ละชิ้นส่วนควรวางลงในตำแหน่งใดทำให้เพิ่มผลผลิตได้ถึง 30% เพิ่มความแม่นยำขึ้นถึง 96%

เท่าที่กล่าวมาจะเห็นว่า 5G มนุษย์จะทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสากรรมเพราะว่าเครื่องจักรก็จะสื่อสารกับเครื่องจักรด้วยกันเองอย่างรวดเร็วและเครื่องจักรก็จะส่งข้อมูลมายังมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกันและประมวลผลร่วมกับ ปัญญาประดิฐษ์มากขึ้น

เครืองโทรศัพท์คงต้องเปลี่ยน สำหรับมือถือที่รองรับ 4.5G แล้วเช่น iPhone 6s / 6s Plus ขึ้นไป, Huawei Mate 8 ขึ้นไป, Samsung Galaxy S6 ขึ้นไป, LG G4 ขึ้นไป และ HTC One 9 ขึ้นไป

แหล่งที่มา จากรายงานของ พันเอก ดร. เศรษฐพงค์  มะลิสุวรรณ สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่ http://www.nbtc.go.th/News/Information/32534.aspx


วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Digital Disruption ที่มีผลกระทบระดับชาวบ้านยังไง

ถ้าเรามามองว่าคำว่า Digital Disruption หรือการที่โลกดิจิทัลเข้ามารบกวน จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องของคนทำธุรกิจในระดับบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น เพราะวันนี้เดินไปตามตลาดนัดพ่อค้าแม่ขายก็บ่นว่า ขายของไม่ค่อยได้ คนขับแท็กซี่ ก็บ่นว่าหาคนยากขึ้น ยุคนี้ทุกคนต้องให้ความสนใจกับ การที่โลกดิจิทัล เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันมากขึ้น เพราะวันนี้เกิดสิ่งที่เรียกว่าอยู่บ้านก็จับจ่ายสินค้าได้ ผมเชื่อว่าปัจจุบัน คนสั่งสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพราะสามารถเลือก เปรียบเทียบ อ่านคำติชม ได้ จากการสังเกตุ วันคนโสดที่ผ่านมา 11.11 จากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านเป็นวัน Shopping ของชาวจีน Alizila ได้เคยออกรายงานว่าในวันดังกล่าวมีแบรดใหม่เข้ามาขายมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ที่มา alizila

 ทำให้ปัจจุบันวันคนโสด ลุกลามไปทั่วโลก ทุกเว็บจัดกิจกรรมลดราคากันมากมาย และ ที่กำลังจะมาถึงในวันศุกร์ที่ 23 พ.ย. คือ Black Friday ซึ่งเมื่อก่อนนิยมกันในแถบฝรังอเมริกา แต่วันนี้แทบจะทุกร้านค้าออนไลน์เตรียมโปรโมชั่นกันหมดแล้วแบบนี้ แถมด้วยร้านเหล่านี้ก็แถมคูปองส่วนลดกับ https://www.picodi.com เมื่อได้ส่วนลดก็จะสามารถนำรหัสส่วนลดไปใช้กับเว็บที่ร่วมรายการ เว็บ Picodi ช่วยทำให้คนรู้จักร้านค้าเหล่านี้มากขึ้นก็เป็นกลยุทธ ในการขายอีกช่องทาง


เราจะเห็นว่าร้านน้อยรายใหญ่ ยังมุ่งทำการตลาดหลายช่องทางเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็บชาวบ้านร้านค้าเดินถนนก็ต้องดิ้นเกาะกระแสตามด้วย

ผลกระทบของชาวบ้านจากร้านค้าออนไลน์

เราคงไม่ต้องไปสำรวจไกลเอาใกล้ตัวมากที่สุดว่าเคยสั่งของออนไลน์บ้างไหม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นของชิ้นนั้นมาก่อนแต่ก็มีคนเคยซื้อมาแล้วรีวิว ถึงจะยังไม่ได้ซื้อ แต่ก็เคยไปมองของจริงมาแล้ว และถ้าหากยังไม่ได้ซื้อก็หันมาค้นสืบราคาจากร้านออนไลน์ที่น่าสนใจ และถ้ามีคูปองส่วนลดเพิ่มเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าในตลาดคนเดินทำไมจึงมีแต่คนขายแต่ไม่มีคนซื้อ 

ผลกระทบจากร้านอาหารในบ้าน

ร้านอาหารในบ้านคือร้านที่รับคำสั่งซื้อจาก Line จาก สื่อออนไลน์แล้วส่งของถึงหน้าบ้าน จากทำขายในหมู่บ้าน จนกลายเป็นขายส่งทั่วกรุงเทพ ร้านค้าเหล่านี้พัฒนาการมาจาก การที่หมู่บ้านเข้าไปลึกอยู่ห่างจากชุมชนจะต้องขับรถออกไปถึงจะเจอร้านค้าเพราะส่วนมากหมู่บ้านเหล่านั้นมักจะไม่ให้ลูกบ้านใช้บ้านเปิดหน้าร้านทำการค้า จึงทำให้ลูกบ้านแบ่งปันอาหารที่ทำเองและขายกันในหมู่บ้าน ผ่านไลน์กลุ่มมาร์เก็ตของชุมชน พบว่ากิจการหลายร้านกลายเป็นอาหารตามสั่งที่เติบโต ทำอาหารกล่องส่งตามบริษัท  จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อาหารร้านรวงต่างๆ จะมียอดขายดี แค่ช่วงเสาร์อาทิตย์ ร้านอาหารบางร้านก็รับมือด้วยการส่งเดริเวอร์รี่ แต่ถ้าไม่สนใจเรื่องของออนไลน์

ร้านเสื้อผ้าตามถนนคนเดินคนหาย

ก็เพราะว่าสิ้นค้าเหล่านี้ในร้านออนไลน์ ที่ไม่นับรวม Live ขายกันผ่านหน้าจอ ที่เพิ่มมากขึ้นประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ Live สดผ่าน Facebook ภูมิภาคนี้พอๆกับเวียดนาม


ภาพเช้าวันพุธที่ 21 พ.ย

วิธีรับมือ

ยุทธวิธีที่ตลาดคนเดินจะสามารถรับมือได้ก็คือต้องสำรวจว่าตลาดออนไลน์ขายกันเท่าไหร่เราขายเท่าเขาหรือมากกว่านิดหน่อย สินค้าที่รับมาใช้วิธีรับฝากขายไม่ซื้อสินค้ามากักตุนไว้เอง เพราะสินค้าที่รับมาก็มีขายในโลก ออนไลน์เช่นกัน เพราะหลายครั้งคนก็ยอมซื้อที่ร้านค้ามากกว่าเพราะได้สินค้าทันทีไม่ต้องรอหลายวันให้หงุดหงิด บางทีได้สิทธิ์คืนสินค้าได้ถ้ามีปัญหา

ดังนั้นการรับมือกับ Digital Disruption ของช้าวบ้านร้านตลาดคนเดินก็ต้องสำรวจโลกออนไลน์ซึ่งหนีไปไม่ได้ โทรศัพท์มือถือ ราคาไม่กี่พันบาทต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์และนำร้านของตัวเองขึ้นโลกออนไลน์ให้ได้ เช่นทำ QR-Code เพื่อแอดเพื่อนกับคนที่เดินถนนมาสนใจสินค้าเรา  Line@  แลกเบอร์ส่ง Facebook page หมั่นรีวิวสินค้า ผ่านทุกช่องทาง สังคมยุคใหม่เป็นสังคมแห่งการเรียนรุ้ ต้องเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องนำไปใช้ เรียนรู้ข่าวสารว่าจริงหรือเท็จ เรียนรู้วิธีใช้งาน กล้าที่จะรีวิวสินค้า ใช้ blogger ให้เป็นประโยชน์ เรียนรู้วิธีการถ่ายภาพศึกษาว่าภาพสวยๆเขาถ่ายกันอย่างไร ดึงลูกค้าออฟไลน์มาให้รู้จักเราบนออนไลน์ให้มากขึ้น

ยุคทองของพ่อค้าแม่

จะว่าไปแล้วยุคนี้เป็นยุคทองของพ่อค้าแม่ค้าเพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายได้หลายช่องทาง เช่น ออนไลน์ เฟสบุค เข้าไปสร้างรายละเอียดสินค้าทาง wordpress.com หรือสมัครเป็นพ่อค้าเอาสินค้าไปฝากขาย เมื่อเทียบกับสิบกว่าปีที่แล้ว นักขายเก่งๆ มักจะใช้วิธีเดินเคาะประตู แล้วหมั่นทำความรู้จังลูกค้ารายใหม่ หรือใช้วิธี ขอรายชื่อผู้ลูกค้ารายใหม่ ยุคนี้ตลาดคนกลุ่มใหม่หางายกว่าสมัยก่อนเยอะ ที่สำคัฐมากๆ คือความตั้งใจ ไม่ย่อท้อต่อการเรียนรู้ 

กลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ไหน

กลุ่มลูกค้าอยู่ที่ไหนเราก็ไปที่นั่นนกลุ่มใหม่เขาไปพบปะเจอกันในโลกออนไลน์ที่ไหนก็ต้องเข้าไปให้ถึงแต่ควรจะมี Blog หรือเว็บหลักเพื่อใส่รายละเอียดที่สำคัญๆ ของสินค้าเอาไว้ให้ลูกค้าได้อ่าน เรียนรู้วิธีซื้อโฆษณาในช่องทางออนไลน์ เรียนรู้ที่จะสร้างกลุ่มลูกค้าของเราเองไม่ฝากร้านกับกลุ่มของผู้อื่น

รับข้อคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์

เป็นเรื่องปกติที่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ เราอาจจะใช้ แบบสำรวจในเฟสบุค ก็ได้ หรือ จะสร้างจาก google Form ก็ได้เช่นกันเพื่อสำรวจในเบื้องต้น เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้วิธี จะเรียนรุ้ได้จากช่องทางไหน ก็ ช่องทาง Youtube.com มีทั้งคนไทยสร้างวิธีเอาไว้อยู่ ต้องค้นหาและเรียนรู้

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เวสต์เวอร์จิเนียทดลองใช้แอปโหวดลงคะแนน

เรื่องของการลงคะแนนเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก ในประเทศไทยตอนนี้หลายพรรคการเมืองก็พูดถึงเรื่องการที่อยากให้มีระบบลงคะแนนด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบสมาท์โฟน วันนี้มีข่าวว่า สหรัฐจะมีการลงคะแนนที่เรียกว่า midterm election ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ประกอบด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ 36 คน สมาชิกวุฒิสภา 35 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส) 435 คน

เพื่อแก้ปัญหาสำหรับคนที่ไม่สามารถกลับมาลงคะแนนเสียงได้เช่นกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ในเรือดำน้ำ หรือ อยู่ในอัฟกานิสฐาน หรือ ในต่างประเทศ

ตอนนี้เวสเวอร์จิเนียจะนำระบบการลงคะแนนแบบ อิเล็กทรอนิกสมาใช้สำหรับ ถามว่ามีกฏหมายรองรับหรือไม่ก็ตอบได้ว่า มีเรียกชื่อ ย่อว่า UOCAVA ซึ่งพรบ ฉบับนี้ อนุญาตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเสียงผ่านรูปแบบใดๆ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึง FAX และ e-mail

ซึ่งก็หมายความว่าเวสเวอร์จิเนียจะเป็นรัฐแรกที่เสนอการลงคะแนนออนไลน์ผ่านแอปสมาร์ทโฟน

ข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น

ถึงแม้ว่าการลงคะแนนด้วยวิธีออนไลน์อาจจะทำให้คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะมีโอกาศลงคะแนนในปีนี้จะได้รับความสะดวกสะบายไปด้วยทำให้เชือว่าจะสามารถเพิ่มตัวเลขจำนวนผู้มาลงคะแนนได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยก็เป็นกังวนในในเรื่องของความปลอดภัยที่จะส่งผลต่อคะแนนเสียง หรือ ข้อมูลส่วนตัวตกไปอยู่ในเมือของผู้ไม่หวังดี เช่น การใช้เทคนิค DNS spoofing เมื่อเราเข้าไปเว็บต่างๆ แล้ว DNS ก็เปลี่ยนชื่อที่คล้ายกันทำให้เส้นทางการเข้าเว็บเปลี่ยนไปเข้าเว็บปลอม เพื่อให้ได้รหัสผ่าน

ผู้อำนวยการของ CyberScout ก็เตือนว่าเขาไม่มันใจว่าผู้มีสิทธฺ์เลือกตั้งจะได้รับการคุ้มครอง จากการเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์

ไอเดียนี้เกิดจากนายทหารเกษียนอายุราขการ ที่ปัจจุบันมาเป็น เลขานุการรัฐเวสเวอร์จิเนีย ตอนนี้เขารับราชการอยู่นั้นเขาไม่สามารถลงคะแนนได้ระหว่างปฏิบัตหน้าที่

หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีประชาธิปไตย กล่าวว่า การเลือกตั้งด้วยวิธีนี้จะเกิดขึ้นได้แต่ต้องระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยในCyber

ระบบมาจากไหน

ระบบเลือกตั้งนี้เกิดขึ้นจาก องค์กรไม่แสวงกำไรชื่อว่า Tusk Montgomery Phithropies ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมการลงคะแนนเสียงและการต่อสู้กับความหิวโดย ได้ สนับสนุนทางการเงินให้กับ Voatz เนื่องจาก Voatz นั้นได้รับรางวัลชนะเลิศในการ Citrix Hackathon ของ SXSW ในปี 2014

โดยขั้นตอนของการลงคะแนน ผู้ที่ต้องการใช้ระบบลงคะแนนจะต้องสมัครใช้งานและจะได้รับคำแนะนำผ่านทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ และให้ดาว์โหลดแอปและยืนยันตัวตนด้วย รหัสภาพถ่าย และถ่ายรูปบัตร ID ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งส่งวีดีโอด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าตรงกัน แอปจะทำการจดจำใบหน้าเพื่อจับคู่ภาพ

หากทุกอย่างตรงกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะสามารถเปิดบัตรลงคะแนน เมื่อลงคะแนนแล้วการส่งบัตรคะแนนจะใช้ Face ID ของ Apple หรือ ลายนิ้วมือขึ้นอยู่กับโทรศัพท์ของผู้ใช้สิทธิ  บัตรจะถูกส่งไปยังเครื่องที่เรียกว่า Digital lockbook กล่องนี้จะไม่ทำงานจนกว่าจะมีการเลือก โดยผู้สมัครทั้งสองพรรค จะต้องนำซีเคียวคีย์ มาเสียบที่ตู้พร้อมป้อนรหัสลับเพื่อการลงคะแนน การลงคะแนนนั้นจะมีการบันทึกภาพดิจิทัลเมื่อมีการลงคะแนน เพื่อป้องกันการโต้แย้งในภายหลังอีกด้วย

การทดสอบระบบนั้นได้เคยทำการทดสอบมาแล้ว และได้เคยเข้าไปตรวจสอบระบบคราว์น ของ Voatz มาแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เราเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง

พ.ร.บ นี้ กําลังจะมีการเสนอเข้าสู่สภา สนช เหตุผลก็เนื่องจากว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องคลอด พ.ร.บ นี้มี อยู่ 2 ประการก็คือผลกระทบจากกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ EU หรือที่เราเรียกว่า GDPR อันที่สองก็คือว่าเนื่องจากว่าปัจจุบันเราใช้ดิจิตอลข้อมูลดิจิตอลกันเยอะมากในสื่อสังคมออนไลน์ทำให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลกันอย่างกว้างขวางและมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลอย่างมากจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายมาควบคุมกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล

ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันนั้นมีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นอย่างมากเช่นการส่งสินค้า ในระบบอีคอมเมิร์ซก็ต้องมีการจัดเก็บที่อยู่ของผู้รับ หรือร้านค้าต่างๆข้อมูลสินเชื่อแม้แต่ว่าเราไปโรงพยาบาลเราก็ต้องให้ข้อมูลทางด้านสุขภาพทางด้านข้อมูลส่วนตัวซึ่งข้อมูลเหล่านี้เรามักจะพบว่าหลายครั้ง เราก็สงสัยว่าปัจจุบันทำไมมีผู้ที่โทรมาขายบัตรเครดิตขายประกันหรือเสนอสินค้าอื่นๆให้กับเราข้อมูลเหล่านี้เขาเท่านั้นได้มาอย่างไร เราก็มีความเชื่อกันว่าข้อมูลที่เราให้ไปกับการสมัครสมาชิกการเป็นสมาชิกคลับต่างๆหรือแม้แต่สมาชิกบัตรเครดิต หรือร้านค้าเชื่อกันว่ามีการนำเอาข้อมูลของลูกค้านั้นไปขายข้อมูลให้กับบริษัท ต่างๆเหล่านั้น พ.ร.บ. ที่จะออกมาก็เป็นเรื่องที่มีทั้งแง่ดีและก็ในแง่ที่จะทำความยุ่งยากให้กับผู้ประกอบการเนื่องจากว่าพรบฉบับนี้ มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องของกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ ถ้าหากว่าข้อมูลนั้นมีการรั่วไหลหรือไม่มีการจัดเก็บที่ดีตามกฎข้อบังคับท่านอาจจะถูกปรับ และเมื่อเกิดความเสียหายซึ่งปัจจุบันมันก็สามารถที่จะข้อมูลรั่วไหลกันได้ทราบว่ามีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ดี
เขาแยก จ้อมูลส่วนบุลคล เป็นสองประเภท
LAWFUL BASIC
เช่นข้อมูล เพื่อการทำธุรกรรม ถ้าไม่มีจะทำธุรกรรมไม่ได้
CONCENT
ข้อมูลที่ต้องได้รับจากเจ้าของข้อมูล เช่น ความเชื่อ ศาสนา  ข้อมูลที่ เป็นความลับเช่นความลับทางสุขภาพ

USELIMITATION
ข้อมูลที่ใช้ได้แค่จำกัดใช้แค่บางอย่างเท่านั้นที่จำเป็น

มาดูกันคราวๆ ว่า ผบกระทบจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง

- การถ่ายคลิปโดยไม่มีความยินยอม จะมีความผิด

- การจะเก็บข้อมูลต้องเป็นไปตามความเหมาะสม ไม่ได้ขอทึก

- ควรแจ้งต้องแจ้งเป็นลายลักษอักษร

- เว็บไซต์ต้องมีการแจ้งเตือนถ้าหากกำลังจะมีการเก็บข้อมูลและมีหลักฐาน ถ้าไม่ทำจะโดนโทษปรับทางปกครอง Privacy notis ต้องถูกต้องตาม รูปแบบ เก็บเพื่ออะไร แล้วจะเปืดเผยอะไรบ้าง ต้องชัดเจน อาจถูกปรับ 1,000,000 บาท

- ข้อมูลที่เหมาะสม ที่สามารถจัดเก็บได้

- ห้ามเก็บข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลโดยตรง เข่น การโทรมาขายประกัน ขายบัตรเครดิต

- กรณีที่เป็นธุรกิจ แล้วมีสาขาอยู่ต่างประเทศ แล้วประเทศนั้นไม่มีกฎหมาย คุ้มครอง ความเป็นส่วนตัว จะมีความผิด

- สิ่งที่น่ากลัวคือผู้ประกอบการ ถ้ากรรมการหรือผู้จัดการสั่งการหรือละเว้นไม่สั่งการให้มีความรับผิดด้วย มีโทษจำคุก และปรับ

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

-บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์เข้ามาขอตรวจสอบข้อมูลขอดูความถูกต้องขอดูการประมวลผลข้อมูล

- สิทธิ์เพื่อจะขอดูข้อมูลเพื่อย้ายโอเปอเรเตอร์

- มีสิทธิ์ในการคัดค้าน การประมวลผล

- สิทธิที่จะมีการขอจำกัดข้อมูลในการประมวลผล จากผู้ประมวลผลข้อมูล

- ต่อไปผู้ประกอบการจะต้องบันทึกข้อมูล ทุกกิจกรรม ขิงข้อมูลส่วนบุคคล ใครเข้ามาดู ข้อมูลบ้าง

กฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการเป็นหลัก ผู้เชียวชาญบอกว่า กฎหมายของเราแตกต่างจาก GDPR  ในเรื่องของการประมวลผลข้อมูลด้วย AI แต่บ้านเรายังไม่ได้พูดถึงในเรื่องนี้

ขอบคุณ ข้อมูลจากการถ่ายทอดสด สัมมนา ร่างพรบ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดย นายแพทย์ สุธี ทุวิรัตน์

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ปี 2018 เทรนที่มาแรงคือ BI หรือ Business intelligen

เจอกันทุกวันพุธครับ ใกล้สิ้นปีเข้ามาทุกขณะครับก็จะมีเทรนสรุปของปีนี้ออกมากันว่าอะไรที่มาแรงแซงทางโค้งกัน และเทรนของปีนี้เป็นกระแสไปทั่วโลกรวมถึงวงการไอทีบ้านเราด้วยเช่นกันคือ BI หรือ Business intelligence บทความที่  Tableau เผยแพร่ออกมา มีประโยชน์มากว่า ว่าเจ้า BI นี่ละปีนี้มาแรง จะว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมผู้บริโภค สิ่งต่างๆเหล่านี้คือข้อมูลเพื่อการนำไปวางแผนกลยุทธ์ขององค์กรนั่นเองครับ ว่าเราจะนำข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร เพื่อขับเคลื่อนสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า


Machine Learning เอามาใช้ในเชิงธุรกิจ

ลองนึกภาพว่าถ้าเป็นในอดีตเราอยากวิเคราะห์ข้อมูล ก็อาจจะใช้โปรแกรมตารางคำนวน อย่าง LibreOffice Calc หรือ R หรือ Tableau แระบวนการเหล่านี้ก็เกิดจากเอาข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ด้วยมืออาจใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่การที่เราใช้ Machine Learning จะช่วยทำให้การวิเคราะห์นั้นเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่นาที ปัจจุบันเราก็รู้ว่าปัจจัยภายนอกในทางธุรกิจเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นวันหยุด ภัยธรรมชาติ ข่าวที่มีผลกระทบกับสินค้า เช่นการเปิดตัวสินค้าของคู่แข่ง ยุคนี้น่าจะหมดยุคของการทำแบบสำรวจจากแบบสอบถาม เพราะเราก็รู้ว่าลูกค้าไม่ค่อยได้ให้ข้อมูลที่แท้จริง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ การใช้ Machine Learning จะช่วยให้เข้าใจ พฤติกรรมของผู้บริโภคหรือลูกค้าได้ดีกว่า

การเติบโตของ Natural Language Processing (NLP)  

ในปี 2018 เราได้เห็นการเติบโตของ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) มากขึ้นมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายการนำเอา NLP เข้ามาใช้กับสินค้าเริ่มโตขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ นักพัฒนาในด้านนี้ยังมีไม่มากแต่เราก็เห็นสินค้าของ Amazon Alexa, Google Home, Microsoft Cortana ที่ออกมาและพัฒนาไปพร้อมๆกับการออกมาให้นักพัฒนาทั่วโลกได้ทดลองใช้ โดยหวังว่ามนุษย์จะสามารถพูดคุยกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้ เหมือนกับในหนังที่เราเห็นโทนี่สตาร์ค คุยกับ จาวิค ใน ไอร่อนแมน

การ์เนอร์ก็คาดการ์ณว่าในปี 2020 จะมีการสร้างแบบสอบถามการวิเคราะห์ 50 เปอร์เซ็นจะมาจากการการโต้ตอบผ่านเสียงด้วยเทคโนโลยี NLP เช่น"ยอดขายผักวันนี้เป็นอย่างไร" "คะแนนในการเรียนวิทยาศาสตร์มีเท่าไหรแล้ว" เชื่อกันว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิ่งลึกได้ว่าผู้คนอยากรู้อะไรและมักจะถามอะไร ข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ จะช่วยนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจได้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าคำถามต่างๆ สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ความพึงพอใจได้ ไม่ใช่แค่การพูดเท่านั้น NLP ยังรวมไปถึง chatbot อีกด้วยที่มนุษย์สามารถพิมพ์โต้ตอบกับหุ่นยนต์ garner คาดการณ์ว่าปี 2021 จะมีการใช้มากว่า 50% และ IDC ก็บอกเช่นกันว่า ปี 2019 ในการทำงานแต่ละวันในระดับ enterprise จะมี Application ที่สามารถเข้าถึงผู้ช่วยอัฉริยะแบบเป็นส่วนตัวได้  

มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มเห็นความสำคัญกับสาขา Data science and Analytic 

เทรนนี้ ไมไ่ด้เกิดขึ้นแต่ในต่างประเทศ ประเทศไทยเองก็เกิดปรากฏการณ์แบบนี้เหมือนกันและจะมีการบรรจุเนื้อหาการวิเคราะห์ข้อมูลลงไปในโรงเรียนด้วยเช่นกัน
เช่น ป6 เรียน introduction to data science ม2 จะเรียนวิชา dada analytics
ในต่างประเทศเอง ก็มี 
มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนาเป็นที่ตั้งของหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาแรก MSA ตั้งอยู่ภายในสถาบัน Advanced Analytics (IAA) ซึ่งเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่มีภารกิจ
เพื่อสร้าง "ผู้ประกอบการด้านการวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในโลก - ผู้ที่เข้าใจวิธีการและเครื่องมือที่ซับซ้อนสำหรับการสร้างแบบจำลองข้อมูลขนาดใหญ่ [และ] ที่มีความปรารถนาในการแก้ปัญหาที่ท้าทาย ... "

วิชาศิลปะปรับตัวสร้างนักศึกษาเพื่อตอบโจทย์ การวิเคราะห์ข้อมูล

เนื่องจากว่าอุตสาหกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลต้องการแรงงานที่มีทักษะในการเล่าเรื่องไม่ว่าจะเป็น info Graphic การสร้าง Dash Board ที่ทำให้ผู้บริหารได้ดูกราฟแสดงผลต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ทักษะการสร้างวิธีการนำเสนอเป็นอยางมาก ว่ากันว่าปัจจุบันแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจะกลายเป็นเรื่องที่ง่าย ทุกคนสามารถที่จะเล่นกับข้อมูล ดังนั้นศิลปะ เหล่านี้จะเข้ามามีส่วนร่วม 

ปัจจุบันเราจะเห็นผลการทบทางเทคโนโลยีค่อนข้างมากแต่การทำให้มีประสิทธิภาพก็ด้วยการนำวิชาศิลปะเข้ามาใช้ เช่น นิสสันได้จ้างนักมานุษยวิทยาระดับปริญญาเอก Melissa Cefkin มาเป็นผู้นำในการวิจัยเรื่องปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับเครื่องจักร ระหว่างรถยนต์ที่ขับด้วยตนเองและมนุษย์ 





วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

10 ปี Google Chrome วันนี้มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจ

เชื่อได้ว่าหลายๆคนชอบใช้ Browser อย่าง Google chrome ในการใช้ท่องเว็บไซตและจัดการเอกสารทำตารางคำนวนและทำสไลด์ใน Google App แต่ฟีเจอที่ทำให้หลายคนใช้ Chrome นั้นก็เพราะ
1. มี Google web Store มีไว้ทำอะไร มีไว้สำหรับติดตั้ง web App เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

2. มีการจัดการ BookMark เมื่อเราชื่นชอบเว็บไซต์ที่จะต้องเข้าบ่อยๆ ก็สามารถที่จะ เก็บลงใน BookMark ทำให้กลับเข้ามาดูย้อนหลังได้ และที่ติดอกติดใจ คือเมื่อเราไปใช้ Chrome Browser ในโทรศัพท์มือถือจะซิงค์ไปที่มือถือด้วย

ของใหม่วันนี้มีอะไรเพิ่มเข้ามา

1. สามารถเข้าถึงการค้นหาเข้าไปถึง google Drive ของเราได้อีกด้วย
 2. เกมส์ไดโน ที่มีสี เล่นได้เมื่อไม่มีอินเตอร์เน็ต
3.  เมื่อเราเข้าเว็บที่ต้องมีการกรอกรหัสผ่านจะสามารถใช้ตัวช่วยจำรหัสผ่านและเวอร์ชั่นนี้ มีการช่วยจัดการรหัสผ่านเช่นเมือจำแล้วจะเข้าไปลบออกก็ได้
4. ส่วนของ payment methods ที่เก็บข้อมูลที่จะใช้ในการกรอกข้อมูลการชำระเงินหรือจะเข้าไปลบในเครื่องมือการจัดการ

5. การเปลี่ยนเครื่องมือสืบค้นมีให้ตั้งค่าได้

ซึ่งเราสามารถที่จะเปลี่ยนไปใช้ค่ายอื่นได้

แต่สิ่งที่ google เพิ่มแล้วเกิดการพูดถึงอย่างมากก็คือ เมื่อเราใช้ google Chrome ทำการ Login Gmail จะเป็นการ Login ให้กับ Chrome บราว์เซิอร์ไปด้วย เพราะบางคนไม่อยากให้ google เก็บประวัติการเข้าใช้งานเท่าไหร่ หรือ บันทึกข้อมูลการสืบค้นแล้วสามารถซิงค์ข้อมูลข้ามเครื่องได้



วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

ดิจิทัล ไอดี เกี่ยวข้องใกล้ตัวเราแค่ไหน

การพิสูจน์ตัวตน หมายถึง การยืนยันว่าเป็นตัวเราจริงๆ ไม่ได้มีใครแอบอ้าง ในโลกดิจิทัล ที่ผ่านมาสามารถเข้าใช้ระบบต่างๆ ได้ด้วยการใช้ ชื่อล๊อกอิน และรหัสผ่าน ซึ่งเราก็จะพบว่า ก่อนที่จะสมัครเข้าใช้งานก็ต้องมีการกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ เช่น รหัสบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ระยะหลังๆ ข้อมูลเหล่านี้ไม่พอ จะต้องป้องกันอีกชั้นว่า มีโทรศัพท์มือถือเบอร์อะไร และยืนยันอีกครั้งด้วยการกรอก เลข OTP ว่าหากได้รับข้อความให้เอามากรอกว่าเราใช้เบอร์นั้นจริงๆ แต่ก็มีช่องว่างให้เกิดความเสียหายได้เมื่อ วางมือถือไว้และมีคนแอบดูรหัสในเวลานั้น
หลายคนสงวัยว่าสมาร์ทการ์ดบนบัตรประชาชนเอามายืนยันตัวตนได้ไหม คำตอบก็คือทำได้ แต่ถ้าจะให้เกิดความมั่นใจจะรู้ได้อย่างไรว่าบัตรนั้นไม่ได้ถูกขโมยมา
ธุรกรรมต่างๆที่น่าจะสมัครใช้บริการทางอินเตอร์เน็ทในตอนนี้นั้น จะเป็นธุรกรรมที่ไม่ได้ผูกมัดสัญญา แต่ถ้าเป็นธุรกรรม ที่ผูกมัดสัญญา เช่น เปิดบัญชีบัตรเคดิตร การเปิดยัญชีธนาคาร การขอสินเชื่อ การซื้อประกันชีวิต ธุรกรรมเหล่านี้ถ้าต้องการทำจะต้องทำผ่านระบบดิจิทัลจึงมีความต้องการพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นเราแน่นอน ไม่ได้มีใครแอบอ้างมา ดังนั้นในปัจจุบัน หากต้องการเปิดแอปขอธนาคารเพื่อการโอนเงิน ซื้อกองทุน หรืออื่นๆ จะต้องเอาสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประชาขนตัวจริง และที่สำคัญตัวท่านผู้อ่านเองจะได้มาด้วยตัวเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมาก็เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการที่จะลดขั้นตอนก็ต้องหาวิธีการเพื่อยืนยันตัวตนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องมาเอง
อีกเรื่องที่เราพูดถึงกันมานานก็คือเรื่องการลงลายมือชื่อในรูปแบบดิจิทัล เพื่อการยืนยันเอกสารเรื่องนี้สำคัญที่สุด เพราะธุรกรรมอื่นๆ เรายังเดินไปที่ธนาคารแล้วไปยืนยันกันในเบื้องต้นได้แต่ลายมือขื่อจำป็นต้องมีคนเชื่อว่าเป็นของเรา

สิ่งที่นัก crypto พูดกันมานานก็คือเรื่อง CA หรือ Certificate Authority  ซึ่งบริษัทนี้จะเป็นผู้รับรอง ลายมือชื่อดิจิทัล อาจจะรวมถึงการออกกุญแจ สองดอกเพื่อใช้ในการลงนาม และ ใช้เพื่อการเข้ารหัสเอกสารความลับ  การใช้งานคล้ายลักษณะเดียวกับกุญแจ ถ้าจะเปิดตู้จดหมาย แม่กุญแจและลูกกุญแจ ต้องคู่กันจะใช้ลูกกุญแจดอกอื่นมาเปิดไม่ได้ ซึ่ง CA ก็ต้องได้รับการรับรองด้วยเช่นกัน โดยการยอมรับกันในโครงข่ายของ CA ก็ด้วยเช่นกัน
ใน พรบ นี้พูดถึงการกำกับดูแล โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล อำนาจการกำกับดูแลของคณะกรรมการแย่งได้เป็น 3 ส่วน
1. ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน คณะกรรมการนี้จะกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัทและการจัดตั้งบริษัท
2. ระบบทำการแทน หากภาครัฐหรือเอกชนที่ประสงค์จะเข้าสู่ platform ระบบนี้จะทำการเชื่อมต่อให้ เช่น ภาคเอกชนที่ไม่อยากลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะใช้เพื่อสอบถาม ใบรับรองหรือลายเซ็นต์ดิจิทัล ก็ใช้การยืนยันผ่าน ระบบนี้
3. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะกรรมการนี้ก็จะมีอำนาจ ในการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้จ่อมูลเมื่อเกิดความเสียหาย กรรมการชุดนี้ก็จะมีอำนาจในการกำหนดมาตรฐานในการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานในโครงข่าย

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

ซอฟต์แวร์แห่งเสรีภาพ

เป็นประจำของทุกปีในวันเสาร์สัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายนทั่วโลกก็จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองให้ความรู้เรื่องนี้กันทั่วโลก ความสำคัญของวันนี้ก็คือ เรื่องของการเข้าถึงสารสนเทศอย่างเท่าเทียมเสรี หมายความว่าอย่างไร เมื่อความจำเป็นของการใช้สารสนเทศเข้าถึงทุกคน โดยเฉพาะในปัจจุบันซึ่งกลายเป็นพื้นฐานสำคัญกับมนุษย์ไปแล้ว แต่ปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทำให้ผู้คนอีกเป็นจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ ต้องซื้อพื้นฐานทางเทคโนโลยีในราคาที่สูงกว่าผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่สามารถทำซ้ำได้เหมือนซอฟต์แวร์ ความหมายก็คือปลูกข้าวได้ผลผลิตแค่ไหนก็ขายได้เท่านั้นในแต่ละปีและราคาหน้าฟาร์มก็ไม่สามารถควบคุมเองได้ ราคาข้าวหนึ่งเกวียน ซื้อซอฟต์แวร์ได้แค่ระบบปฏิบัติการ


จุดประสงค์ของซอฟต์แวร์แห่งเสรีภาพ

เสรีภาพในการใช้  เสรีภาพในการเรียนรู้  เสรีในการแจกจ่าย เสรีภาพในการแก้ไข เสรีภาพในการแชร์

การใช้ซอฟต์แวร์

ประเทศที่พัฒนาช้าจะมีเหตุการณ์ที่ว่าขายซอฟต์แวร์ราคาไม่แพงให้ภาครัฐ และการศึกษา แต่ ภาคเอกชนราคาจะสูงกว่า ประเทศที่พัฒนาได้ช้า  นักพัฒนาจะไม่คำนึงถึง Platfrom อื่นที่ไม่ใช่ Windows พวกเขาจะไม่สนใจว่า คนที่ไม่ได้ใช้ ซอฟต์แวร์ประเภทเดียวกันจะเปิดอ่านเอกสารได้หรือไม่ ต้นทุนก็จะไปตกที่ SME จึงทำให้ประเทศเหล่านั้นมีการละเมิดลิขสิทธิ์กันสุงมากเพราะต้องการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทเดียวกันกับภาครัฐหรือหน่วยงานราชการ  ผู้คนจะสนใจการ crack แต่เพียงอย่างเดียว

ความโป่รงใส

หากมีการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการเลือกตั้งลงคะแนน เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดการทุจริตผลของคะแนนในการเลือกตั้งระบบที่ไม่รู้ว่า ด้านในเป็นอย่างไร นั่นหมายถึง เรื่องของการปิดเผยรหัสซอฟต์แวร์ หรือที่เรียกว่า โอเพนซอร์ส หากไม่ทำการเปิดซอร์ส เราจะมั่นใจเรื่องนี้ไม่ได้เลยว่า เบื้องหลังมีการแก้ไขผลของการโหวด ยังมีเรื่องของการส่งข้อมูลกลับไปเพื่อประโยชน์ต่างๆ มากมาย เทคโนโลยีโปรงใสจึงมีความสำคัญในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

ตัวอย่างความโปรงใส

โทรศัพท์ ปัจจุบันความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือมีมากขึ้นแต่เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั่นก็เป็นเพราะ Android เป็นระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สที่ผู้ผลิตสามารถนำไปใส่ในผลิตภัณท์ของตัวเองจึงส่งผลให้ราคาโทรศัพท์ แทบเล็ต มีราคาตั้งแต่สองพันบาทคนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้แล้วมีการพัฒนามาใช้กับ TV กล่องรับชมทีวีทางอินเตอร์เน็ท วิทยุอินเตอร์เน็ท

Crypto Currency  สกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาให้อยู่ในรูปแบบของความโปร่งใส เปิดเผยรหัส เพื่อไม่ให้เกิดความโปร่งใส 

LibreOffice  เป็นซอฟต์แวร์เพื่อประโยชน์ของสำนักงานร้านค้าผู้ประกอบการได้สร้างเอกสาร ตารางคำนวน พรีเซ็นต์เทชั่น ออกแบบมาให้มีความโปร่งใส ใช้มาตรฐานกลางในการแลกเปลี่ยนเอกสารกับซอฟต์แวร์ประเภทเดียวกัน

IoT หรืออินเตอร์เน็ทในทุกสรรพสิ่งมี Hardware อย่าง Arduino , Raspberry Pi, Banana Pi และอื่น ๆ ที่ออกแบบ Hard ware แบบเปิด เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาเข้าถึงและพัฒนาได้อย่างง่ายในต้นทุนที่ไม่เกิน 100$ 

ระบบปฏิบัติการ  ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ทุกเครื่องต้องมี Linux ที่อายุครบ 27 ปีแล้วสร้างนวรรตกรรมใหม่เกิดขึ้นมากมายและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Application ธนาคาร โดยมาก บริษัท สื่อสาร และโซเชียลมีเดียว อย่าง Facebook Instragram ต่างก็ออกมายอมรับว่าใช้ ระบบปฏิบัติการเหล่านี้เป็นทางหลัก

คราว์นคอมพิวติ้ง  ที่ใช้เบื้องหลังเป็นซอฟต์แวร์เสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการเชื่อมันว่าระบบทั้งหมดไม่ได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลออกไปใช้เพื่อประโยชน์ของผู้ให้บริการ อื่นๆจึงทำให้ปัจจุบัน บริการคราว์นคอมพิวติ้งเติบโตอย่างมาก และสามารถเข้ากันได้กับแพลทฟอร์มอื่น ๆ ในรูปแบบบริการเดียวกันผู้ใช้ต้องสามารถย้ายค่ายได้

ด้านล่างต่อไปนี้คือข้อความที่แปลมาจากเทคโนโลยี

วันเสรีภาพของซอฟต์แวร์คือการเฉลิมฉลองและการศึกษาทั่วโลกว่าทำไมเทคโนโลยีโปร่งใสและยั่งยืนจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ด้วยทีมงานกว่า 200 ทีมใน 60 ประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่น่าอัศจรรย์ที่ทำให้โรงเรียนและชุมชนของคุณมีส่วนร่วมด้วยไปกัน กับเหตุการณ์ในท้องถิ่นของคุณหรือเริ่มต้นกิจกรรมของคุณเองและพบปะผู้คนมากมายทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าเสรีภาพของเรา จะได้รับการดูแลโดยเทคโนโลยีในวันพรุ่งนี้



วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Smart Cities เมืองอัจฉริยะต้องเตรียมความพร้อมเรื่องภัยในCyber

เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกหลายประเทศกำลังนำเอาเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ มาใช้เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการ บริการสาธารณะ ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า การจัดการขยะ การจัดการจราจร รวมถึงการแจ้งเตือนภัยต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม .ในประเทศไทยตอนนี้เพิ่งจะเริ่มโครงการต่างๆไปบ้าง เช่น ระบบตรวจจับการผ่าไฟแดงของรถยนต์ หลายคนคงจะเคยได้รับใบสั่งจากกล้องพวกนี้กันมาบ้างแล้วตามสี่แยกต่างๆ การตรวจจับความเร็วในถนนหลวง ซึ่งจะสังเกตได้ เมื่อเวลาออกไปต่างจังหวัด จะมีเตือนและแจ้งว่าตอนนี้ความเร็วของเรา เท่าไหร่ บางคนอาจได้รับใบแจ้งค่าปรับกันมาแล้ว
การจราจรของ http://live.iticfoundation.org/ เพื่อการวางแผนการจราจร ในประเทศไทยยังไม่มีการเอาระบบตัดสินใจอัตโนมัติมาใช้ร่วมกับการจัดการปัญหาจราจร แต่ในบางประเทศได้เริ่มไปแล้ว มีการเชื่อมต่อกับ กล้อง CCTV จำนวน 251 ตัว

การใช้ข้อมูลเรื่องสภาพอากาศ ด้วยเรด้าของ กองพยากรอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

ส่วนในโครงการอื่นที่มีการประกวดโมเดลที่จัดโดยกระทรวงพลังงาน โดยเว็บไซต์ thailandsmartcities.com มี 7 โครงการที่ผ่านเข้ารอบ 
1. นิด้า มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ รู้รักษ์หลังงาน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
2. มข (เมือง) มหาวิทยาลัยอัจฉริยะพลังงานสะอาด
3. เมืองจุฬา อัจฉริยะ
4. ธรรมศาสตร์ ศูนย์นังสิต ต้นแบบเมืองมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ
5. วิสซ์ดอม วันโอวัน
6. ของแก่น smart city ระยะที่ 1 ขนส่งสาธารณะเปลี่ยนเมือง
7. เมืองใหม่อัจฉริยะบ้านฉาง

ในขณะที่บ้านเรากำลังเริ่มต้น ในต่างประเทศเอง ก็ได้มีการแจ้งเตือนว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าจากบางบริษัทมีนักวิจัยจาก IBM และ Threatare ค้นพบช่องโหว่ใหม่ 17 ช่องกับระบบสมาร์ทซิตี้ทั่วโลก เช่นสามารถเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรและคำเตือนจากภาวะน้ำท่วม ซึ่งผลการวิจัยที่ค้นพบพวกเขาได้เผยผลการวิจัยในที่ประชุม Black Hat cybersececurity ในลาสเวกัส เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้ทำการติดต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องให้ทำการแก้ไข ช่องโหว่เหล่านี้เป็นตัวอย่างของความเสี่ยงและอาจจะมีที่นักวิจัยยังไม่พบ
นักวิจัยลอกว่าระบบ Libelium , Echelon และ Battelle ที่ถูกใช้ในการตรวจจับอุทกภัยในอาร์เจนตินา  การควบคุมไฟในฝรั่งเศส และ การตรวจสอบการจราจรในรัฐแมสซาซูเซตส์ ตามกรณีศึกษา ทาง Echelon บอกว่าได้รับการยืนยันช่องโหว่และแจ้งให้ลูกค้าทราบและทำการปรับปรุง ส่วนโฆษกของ Battelle กล่าวว่า บริษัท ได้ออกแบบส่วนของ Interface ให้ปลอดภัย ส่วน Libelium ก็ได่ทำการปรับปรุงความปลอดภัยในส่วนนี้แล้ว

นักวิจัยบอกว่าการบุกรุกที่อาจจะะเกิดขึ้นทำให้เกิดความตระหนกในเมืองต่างๆ เช่น สัญญาณเตือนที่ผิดพลาด ด้วยการหลอกด้วยสัญญาณวิทยุหลอกลวงแล้วทำให้ไซเรนพายุทอร์นาโดทำงาน

การตรวจสอบจำนวนรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนเพื่อช่วยควบคุมสัญญาณจราจร ถ้า แฮกเกอร์เข้าไปป่วนก็จะสามารถทำให้การจราจรแย่ลงไปเลย

ระบบแจ้งเตือนน้ำท่วมจะแจ้งเตือนเมื่อพบน้ำแค่หยดเดียว นักวิจัยพบว่าอุปกรณ์ออนไลน์จำนวนมากยังคงใช้รหัสเริ่มต้นที่ติดมากับโรงงาน

ในประเทศไทยหากมีการช่วยกันค้นพบช่องโหว่แบบนี้นักวิจัยอาจจะเป็นผู้ร้ายไปเลยก็ได้เพราะเนื่องจากความคิดเรื่องนี้บ้านเราหลายคนที่เกี่ยวข้องยังรับความจริงไม่ได้ เพราะจริงๆแล้วระบบไม่มีอะไรที่ปลอดภัย100% แต่ก็ต้องเฝ้าระวังและรับมืออย่างรวดเร็ว มีทีมวิจัยของตัวเองที่คอยตรวจสอบช่องโหว่ของอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย เพราะช่องโหว่ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการลองซ้ำ ๆ ผมขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นรหัสบัตร ATM 4 หลักลองเอาเลข 0000 ถึง 9999 มาลองใส่ก็ต้องเจอเข้าสักอัน การลองที่ละชุดเป็นเรื่องพื้นฐาน บางคนใช้วิธีแบ่งครึ่งแล้วเลือกก็อาจจะพบเร็วกว่า วิธีการหา เราเรียกว่า อัลกอริทึม




วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสมาร์ตโฟน ที่มีมากขึ้น

ปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการนำ AI มาใช้กับสมาร์ตโฟน AI เริ่มตั้งแต่ iPhone X ที่นำหน่วยประมวลผลกลางที่มี AI ที่เรียกกันว่า Apple A11 มาใช้วิเคราะห์ใบหน้าเพื่อการปลดล็อกหน้าจอ เราก็เริ่มที่จะเห็นแอพพลิเคชัน และ อุปกรณ์ที่ มี AI เข้ามาเกี่ยวข้องขึ้นเยอะมากในปีนี้ Samsung ก็มี Exynos 9810 ที่ใช้ใน Galaxy S9 ค่าย  อื่นๆ ที่ตามมาก็มี Huawei ที่นำมาใช้ในเรื่องของการถ่ายภาพ เช่นลดการสั่นไหว และการถ่ายภาพที่มีแสงน้อย Xiaomi ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm MSN8953 Snapdragon มาช่วยในคน ที่รักการถ่ายภาพ เซลฟี่ ดูหล่อดูสวยขึ้น

สำหรับค่ายซอฟต์แวร์ที่พบว่าจะนำ AI มาใช้ช่วยในการแต่งภาพ ก็อย่างเช่น Adobe System ก็ได้ลงทุนกับ. Sensei AI Technology เพื่อนำมาใช้กับการแต่งภาพตัดต่อภาพด้วย photoshop และ Premiers Pro ในงานตัดต่อวีดีโอ

ในส่วนของการใช้งานโทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงเว็บไซต์ google สำรวจพบว่า 61% ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลผ่านทาง สมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบัน google จะให้คะแนนกับเว็บไซต์ที่รองรับกับหน้าจอ สมาร์ทโฟน

เมื่อ มี สมาร์ตโฟน ผู้คนส่วนใหญ่ก็สืบค้นซื้อสินค้า ชมภาพยนตร์  อ่านเรื่องราวต่างๆผ่าน ทางช่องทางนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ นักการตลาด นักการเมือง จะอาศัยช่องทางนี้เพื่อเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจึงได้ยินคำว่า BI หรือ Businesses Intelligences  มากขึ้นๆ นั่นก็เหมือนกับว่า เราถูก AI จับความเคลื่อนไหวตลอดเวลา การต่อสู้กัน ในเรื่องของคำค้น หรือ keywords ที่ใช้สอบถาม Siri หรือ Google ส่วนตัวผมคิดว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ AI เกิดการเรียนรู้ แล้วส่ง รายการสินค้าที่ต้องการ ภาพยนตร์ แนวที่ชื่นชอบ หรือข้อมูล. ที่กำลังค้นหา

หลายๆคนเริ่มกังวลว่า โทรศัพท์ของเราทำไมมันฉลาดขึ้น มันเข้ามาสอดรู้สอดเห็นเรื่องราวของเรา ยิ่งต้องทำให้คนในแวดวงที่มีชื่อเสียง นักการเมือง ต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะแค่วันนี้คุณแค่สนใจอยากเลือกชุดชั้นใน ไปเซอร์ไพรส์ ภรรยา มันก็จะส่งรายการสินค้าไปโฆษณาที่หน้าเว็บที่คุณเข้าไป คนก็จะเข้าใจผิดได้ หรือพนักงานคนไหน อยากเปลี่ยนงาน นายจ้างจะวิเคราะห์ได้ทันทีจากหน้าจอ โฆษณา

วันนี้ยกเรื่องราวของ สมาร์ตโฟนเอไอ ขึ้นมาก็เพราะ มีข่าวจาก CNN ว่า พรรคเดโมแครตประกาศแจ้งเตือนทีมงานและสมาชิกพรรค ไม่แนะนำให้ใช้ สมาร์ตโฟนของ ZTE และ Huawei หลังจากที่คณะกรรมการของพรรค จะมีการซื้อสมาร์ตโฟนจาก ZTE มาให้ทีมงานใช้ ประเด็นนี้น่าจะมาจากการประกาศเตือนของ FBI NSA CIA เหตุผลทางด้านความมั่นคง  เพราะสองบริษัทนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน จะเป็นช่องทางให้สายลับจีนมาล้วงข้อมูลสำคัญ เช่น งานวิจัยใหม่ๆ ในห้องวิจัยของภาครัฐ ทาง Huawei ก็ตอบโต้ว่าสินค้าของบริษัทมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย พอๆกับบริษัทอื่นๆ และยังได้รับความเชื่อถือจากรัฐบาลอื่นๆ มากกว่า 170 ประเทศ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ รายงานล่าสุดของ Huawei เปิดเผยผลประกอบการใน ครึ่งปีแรกของ ปี 61 รวมรายได้ 325.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 15%

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

การสร้างนวัตกรรมด้วยการใช้ Rad hat Open Innovation Labs

เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังข้อมูล บทบาทของโอเพนซอร์สต่อองค์กรธุรกิจ จัดโดย Red hat พบว่าโลกทุกวันนี้การ ขับเคลื่อนนวัตกรรมทั้งหมดของเทคโนโลยีโดยมากใช้โอเพนซอร์ส ไม่ว่าวันนี้เราจะใช้บริการจาก คราว์นคอมพิวติ้ง ของใครก็แล้วแต่เบื้องหลังนวัตกรรมจะใช้เทคโนโลยีแบบเปิด 76% ของ cloud สร้างจากโอเพนซอร์สเทคโนโลยี ปัจจุบันลูกค้า ไม่ได้สนใจแล้วว่าเทคโนโลยีจะเป็นแบบปิด หรือ แบบ เปิด แต่ขอให้เทคโนโลยีเหล่านั้น ตอบโจทย์ และความต้องการที่จะสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว แนวคิดนี้เปลี่ยนไปมากแล้วในยุคนี้ กับคนรุ่นใหม่ๆ


หากวันนี้ การพัฒนาโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นเป็นในรูปแบบ เก่าที่เราเรียกกันว่า (Water flow model) จะทำให้ใช้เวลามากกว่าคู่แข่ง ที่ส่วนมาก หันมาใช้วิธีการพัฒนาแบบ Agile ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นว่า เครื่องมือในการควบคุมและจัดการให้นักพัฒนา ทำงานร่วมกันได้ เช่น Jira soft หรือ trello รวมถึง Git hub มีให้เห็นออกมา หรือ บางแห่งอาจจะใช้ Post it ในการเริ่มวิเคราะห์ และออกแบบ โดยวิธีการจะทำงานร่วมกับผู้บริหาร ลูกค้า นักพัฒนา โปรแกรมเมอร์ในแขนงต่าง ๆ นักวิเคราะห์ระบบ และ system admin


แต่เนื่องจากว่าการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในรูปแบบนี้สิ่งที่พบก็คือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหม่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้อีกทั้งในการทำงานด้วย วัฒนธรรมการทำงานแบบนี้ บางคนจะไม่คุ้นเคย

เทคโนโลยีที่ทำให้นวัตกรรมที่เราคิดเกิดได้อย่างรวดเร็วปัจจุบัน ก็มีการพูดถึง การนำเอา คอนเทรนเนอร์มาใช้ หรือ การใช้ไมโครเซอร์วิส แยกออกเป็นเพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาแอพพลิเคชั่นในยุคปัจจุบัน

บทบาทของ โอเพนซอร์สในปัจจุบันได้เข้ามามีส่วนในนวัตกรรมหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ML , AI  , IoT, Big data และอื่น ๆ เป็นความตั้งใจของ Red hat ที่สร้าง Innovation Labs เพื่อที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกค้า ตั้งแต่ Prework >> Residency >> Post-Residency โดยการเปิดให้ลูกค้าเข้ามาใช้ Redhat Open Innovation Labs ซึ่งทั้งโลกนี้มีบริการอยู่ 3 แห่ง คือ บอสตั้น  ลอนดอน สิงคโปร ถ้าเป็นประเทศไทย ก็คงต้องไปที่ สิงคโปร์ ปัจจุบันลูกค้าที่มาใช้บริการ มาจาก Finance , Goverment, Telco , Enterprise

กิจกรรมในภาคพื้น เอเซียแปซิฟิค เช่นการจัด Workshop เรื่อง Agile และ DevOps ที่มาเลเซีย ที่ออสเตเรีย เรื่อง Agile and DevOps workshop

โปรแกรมที่ เข้าร่วมตอนนี้ จะเป็นแบบ Residency Program ซึ่งจะอยู่กัน 6 week ยกตัวอย่าง เช่น
employment services จาก Australia ระบบ Financial services จากอินเดีย มาเลเซีย และ ญี่ปุ่น

Use cases เช่น Heritage Bank และอีกแห่งที่ลูกค้าให้เปิดเผยได้ บริษัทประกันภัย อย่าง Motability

การที่ red hat สร้าง Innovation Labs จะช่วยทำให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น start up ที่เพิ่งจะเริ่มต้นก็จะมีพี่เลี้ยง ที่จะลงมือสร้าง นวัตกรรม บริษัทที่ต้องการสร้างงานบริการเพื่อให้ตอบโจทย์ที่มีการปรับเปลี่ยน อย่ารวดเร็วเพื่อรับมือกับภาวะการแข่งขันในยุคปัจจุบัน เพราะ redhat มีผู้มีประสบการณ์ที่จะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้แบบ 1 ต่อ 1 นี้คือจุดเด่นที่เราจะได้รับการ ถ่ายทอด ความรู้และประสบการณ์ จากผู้เชียวชาญ

ผมได้สอบถามด้านการศึกษา (Red Hat Academy) ที่เปิดให้มหาวิทยาลัย ได้ใช้ Platform , middleware และ Cloud technologies ได้ฟรี เพื่อใช้ในการเรียนการสอน เช่น วิศวกรรม ซอฟต์แวร์ การได้ลงมือปฏิบัติกับเทคโนโลยีจริง ๆ ซึ่งมหาวิทยาลัยในไทยสามารถใช้ได้ ถ้าเรามองว่า 75% ของ Clouds ใช้ Open Source ขับเคลื่อนยิ่งเป็นโอกาสทีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะเข้าถึงเทคโนโลยีแบบนี้ได้ เช่น Open Stack , Open shift

มีนักข่าวถามผู้บริหารของ redhat ว่าในเมืองไทยรัฐบาลไม่ได้พูดถึง โอเพนซอร์ส นานแล้วเป็นอุปสรรคหรือไม่ Demien Wong  Vice President and general Mnager, Asian Growth & Emerging Markets(GEMs) ของ Red hat สิงคโปร์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะทั่วโลก ไม่ได้พูดถึงว่าอะไรเป็นโอเพนซอร์สหรือไม่เป็น แต่เรากำลังพูดถึงวิธีการขับเคลื่อน นวัตกรรมที่จะตอบโจทจ์ และ การทำ digital tranfrom  ที่ช้าไม่ได้และการที่ ไม่ user login ซึ่งหมายถึงการที่ลูกค้าเลือกใช้เทคโนโลยีอะไรแล้วติดเข้าระบบย้ายไปไหนไม่ได้แต่ซึ่ง Open innovation จะตอบปัญหาเหล่านี้ได้

Red Hat เป็นผู้นำด้าน open source ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตั้งแต่ ปี 1993 ถึงตอนนี้ก็ 25 ปีแล้ว ปีปัจจุบัน รายได้อยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญ เป็นบริษัทที่เติบโตแบบต่อเนื่อง








วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

กลต ออกหลักเกณท์มารองรับการขายโทเคนดิจิทัลแล้ว

หลังจากที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศใช้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล เรียบร้อยไปแล้วนั้น เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ได้ออกหลักเกณฑ์และจะมีผลบังคับใช้ในวันที 16 กรกฎาคม 2561 ทำให้ต่อไปนี้ใคร ต้องการจะออก ICO จะต้องทำอย่างไรและผ่านขั้นตอนอะไร เมื่อมีความชัดเจนก็เป็นโอกาสของผู้ประกอการ

ผู้ที่ต้องการจะออก ICO ต้องผ่านการคัดกรองจาก ICO Portal ก่อน ซึ่งใครสนใจจะ ทำหน้าที่นี้ก็สามารถยื่นขอความเห็นชอบ จะใช้เวลา 90 วัน

คุณสมบัติของ ICO Portal

  • จะต้องเป็นบริษัทไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
  • มีโครงสร้างการบริหารจัดการ ระบงาน ตลอดจนบุคลากรที่เหมาะสมต่อการประกอบธุรกิจ
  • มีคามพร้อมในการทำหน้าที่ 
    • คัดกรองผู้ระดมทุน 
    • ประเมินแผนธุรกิจ และ โครงสร้างการกระจายโทเคนดิจิทัล 
    • ตรวจสอบชุดรหัสทางคอมพิวเตอร์หรือ Source Code
    • ทำความรู้จักสถานะของผู้ลงทุน
    • ประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน

คุณสมบัติผู้ออก ICO

  • ป็นบริษัทจัดตั้งตามกฏหมายไทย
  • งบการเงินปีล่าสุด ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบ
  • กรรมการ ผู้บริหาร ไม่มีลักษณะต้องห้าม
 ขั้นตอน
  1. ผ่านการคัดกรองโดย ICO Potal ที่จะเสนอขายผ่านว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม
  2. ยื่นหนังสือชี้ชวนต่อ กลต โดยมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผู้ออกโทเคน รายละเอียดแผนธุรกิจ สิทธิในโทเคน ที่เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนหรือเพื่อการใช้ประโยชน์และข้อมูลการเสนอขาย
  3. กลต พิจารณาอนุญาตภายใน 60 วันนับจากเอกสารครบถัวน
  4. เมื่อได้รับอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่าน ICO Potal ภายใน 6 เดือน

นักลงทุน

  1.  นักลงทุนสถาบัน
  2. ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ เช่น บุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 70 ล้านบาทขั้นไป หรือมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 25 ล้านบาท ขึ้นไป
  3. นิติบุคคลร่วมลงทุน หรือ กิจการเงินร่วมลงทุน (venture capital & private equity)
  4. ผู้ลงทุนอื่น ๆ รายละไม่เกิน 300,000 บาท ต่อ โครงการ

การลงทุนมีความเสี่ยง 


ดาว์โหลดแบบฟอร์มต่างๆ ได้ที่ www.sec.or.th
ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.ก การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ข้อมูลการให้บริการเป็นตัวกลาง https://www.sec.or.th/mpublish/digitalasset/digitalasset_intermediaries.html

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Facebook ได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนเรื่องการรับมือกับข่าวปลอม

สืบเนื่องมาจากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟสบุค จนมีผลให้ มาร์ค ต้องเข้าให้การในสภาครองเกรช ถึงเรื่องที่ผ่านมา เพราะช่วงเวลาของการหาเสียงก็เกิดข่าวปลอม ออกมาจนทำให้ มีผลกับการชนะเลือกตั้งของ ประธานาธิบดี ทรัมป์ ก็มีข่าวว่า Facebook อาจจะได้รับการอภัยโทษ ในช่วงสัปดาห์แห่งเสรีภาพ เนื่องจากปัญหาเหล่านี้เกิดจาก เทคโลโลยี ที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่ รถยนต์ขับเอง จนกระทั้งไปถึงเกมส์การเมือง ปัญหาที่ Facebook เจอพวกเขาได้แก้ไขไปก่อนหน้านี้แล้วเพียงแต่ มันเป็นปัญหาของ บริษัท Cambridge Analytica ซึ่ง มาร์คต้องขึ้นให้การในเรื่องนี้ในฐานะพยาน

ความวุ่นวายของเฟสบุคยังไม่จบเขาต้องตอบคำถามกับนักลงทุนที่อยู่กับเฟสบุคด้วยเช่นกันในงานประชุมประจำปีผู้ถือหุ้น เมื่อผู้ถือหุ้นถามถึงการแก้ปัญหาเรื่องข่าวปลอม และให้ทำรายงานเรือง ประเด็นนโยบายสาธารณะ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข่าวปลอม Reverend Jesse Jackson กล่าวว่า "ข่าวปลอมและการโกหกกำลังจะทำลายพวกเรา"

มาร์ค ได้กล่าวว่าหลายคนที่เผยแพร่ข่าวปลอมหลายคนไม่ได้ทำเพราะเจตนา เพียงแต่เขาเป็นส่วนหนึ่งของ SPAM เท่านั้น

ปัญหาเรื่องข่าวปลอมที่เป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้บนเฟสบุคเองก็พยายามปรับตัวให้ผู้ใช้งานรายงานและสามารถเลือกรับ โฆษณาได้แล้ว


สำหรับผู้คนที่ไม่มั่นใจว่าข่าวนั้นเป็นข่าวปลอมหรือไม่ อีกทางเลือกก็คือ ใช้  Google image ในการตรวจสอบข่าว โดยการใช้รูปภาพ

เราสามารถอ่านเงือนไขต่าง ๆ ของ นโยบายความเป็นส่วนตัวได้ https://www.facebook.com/privacy/explanation

มาร์คยังพูดให้กำลังใจนักลงทุนอีกว่า ตอนนี้กำลังดูช่องทางที่จะ เผยแพร่ facebook ในจีน แต่ต้องศึกษาระเบียบข้อกฏหายต่อไป

(คนจีนตอนนี้ใช้ renren.com แทน Facebook )

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

IBM นำเสนอ Robot ที่โต้วาทีกับมนุษย์




เราอาจเคยได้ยินข่าว ของ IBM เรื่อง คอมพิวเตอร์ชนะเกมส์ หมากรุก เมื่อปี 1997 มันเคยเอาชนะมนุษย์ในการตอบคำถามในรายการเกมส์โชว ที่ชื่อว่า Jeopardy เมื่อปี 2011 ในการแข่งขั้นครั้งนั้นคอมพิวเตอร์ Watson ก็มีการตอบถูกบ้างผิดบ้าง แต่มันก็เอาชนะมนุษย์ไปได้ ในปี 2017 Google AI AlphaGo ก็เอาชนะแชมป์โลกเกมส์ Go เมื่อวันที่ 18 june 2018 คอมพิวเตอร์ สามารถเอาชนะนักโต้วาทีได้ในการแถลงข่าวที่ผ่านมา

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ปัญหาเรื่องฟ้อนต์ TH Sarabun IT9 ทำไมต้องเลิกใช้

ผมคงไม่ต้องอ้างอิงระเบียบสำนักนายกว่าด้วยเรื่องการใช้ฟ้อนต์ TH Sarabun หรือที่อ่านว่า ไทยสารบัญ และประกาศให้ใช้เลขไทยในหนังสือราชการ เพราะประกาศมาตั้งแต่ปี 2549 เพียงแค่ขอความร่วมมือไมไ่ด้บังคับใช้ ลิงค์เอกสาร

ในการพิมพ์เลขไทยในต้องกดปุ่ม shift แล้วพิมพ์บนแป้นตัวเลข ตามมาตรฐานเครื่องพิมพ์ดีด แต่ก็มีหลายคนชอบพิมพ์ตัวเลข ตรงแป้นตัวเลข ที่เพิ่มเข้ามาในแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์เลขภาษาอาราบิก มันไม่สะดวกมีคนนำไปดัดแปลง แล้วออกฟ้อนต์ใหม่ชื่อ TH Sarabun IT9 ขึ้นมาเพื่อให้สามารถพิมพ์เลข อาราบิค ที่แป้นพิมพ์ตัวเลขเป็นเลขไทย

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ไมโครซอฟต์จะเข้าซื้อ Github

การจะเข้าไปซื้อ github ของไมโครซอฟท์ ประกาศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2018 สร้างความกังวนให้กับนักพัฒนา บางส่วน ถึงการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เพราะ ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา แนวคิดของไมโครซอฟท์ คือพัฒนาซอฟต์แวร์ แล้วขายไลเซนต์ ให้กับผู้ใช้งาน ในรูปแบบที่ไม่ยอมเปิดเผยซอร์สโค้ด เพราะมันคือทรัพยากรขององค์กรที่สร้างรายได้ แต่อีกแนวความคิดหนึงของโลกซอฟต์แวร์ คือการ เปิดเผยซอร์สโค้ด เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันของ วิศวกรซอฟต์แวร์ ที่เรียกกันว่าโอเพ่นซอร์ส ก็คือแนวความคิดที่ว่าเปิดเผยซอร์สโค้ดเพื่อความโปร่งใส เปิดเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน เปิดเผยเพื่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งนี้คืออุดมคติที่ฝั่งโอเพ่นซอร์สยึดถือมาตลอด ลิขสิทธิ์ที่เปิดเผยซอร์สโค้ด ใครนำไปใช้ต้องเปิดเผยซอร์สโค้ดด้วย

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Google IO 2018 มีอะไรน่าสนใจ





วันนี้ผมจะมาสรุปเค้าข้าวในเรื่องของงาน Google ไอโอ 2018 ที่ผ่านมาว่า Google ได้พูดถึงอะไรบ้างซึ่งงาน Google ไอ้อ้วนเป็นงานที่น่าสนใจงานสำหรับนักพัฒนาดูดูแล้วเปิดให้คนทั่วไปเพื่อที่จะคาดการณ์ว่าในอนาคตนั้นชีวิตและเทคโนโลยีจะไปในทิศทางใดซึ่ง Google ถือว่าเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอีกบริษัทหนึ่งนะครับ Google ได้พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีด้านสุขภาพว่ามีความคืบหน้าอย่างไร

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วิเคราะห์ พรก สินทรัพย์ ดิจิทัล 2561

ตอนนี้บ้านเรา มี พระราชกำหนด ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ ดิจิทัล 2561 เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ที่ให้ความสนใจลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งตอนนี้มี การแลกเปลี่ยนซื้อขาย และ ออก โทเคน เพื่อการระดมทุน ในการประกอบธุรกิจ
คริปโทเคอร์เรนซี่  หมายความว่า หน่วยข้อทูล อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์โดยมีความประสงค์ที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าบริการหรือสิทธิอื่นใดหรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิตอลและให้หมายความรวมถึงหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดตามที่คณะกรรมการกลตประกาศกำหนด
โทเคนดิจิทัล  หมายความว่าหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Open data กับการใช้ชีวิต

โอเพ่นดาต้า (open data) ข้อมูลเปิด ความหมายในภาษาชาวบ้านก็คือ การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ของภาครัฐ เพื่อความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ มากกว่านี้คือ ชาวบ้าน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ข้อมูลนั้น ต้องไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของ แต่ละคน

การผลักดันเรื่องนี้ก็เพื่อ ประโยชน์หลายด้านเช่น ความโปรงใสในการ ใช้งบประมาณหรือภาษี ทุกคนสามารถนำ ข้อมูลจากภาครัฐไปใช้ได้ตามเงื่อนไข เช่นข้อมูลนั้น ห้ามนำไปทำเพื่อการค้า เช่น ปชช เอาไปเป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่น แล้วเก็บค่าใช้จ่าย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.data.go.th

สาเหตุที่วันนี้มาเขียนเรื่องนี้ก็เพราะ มีข่าวดังเรื่องของ เมจิกสกิน ผมก็มาคิดว่า โครงการ open data ไปถึงไหนแล้ว กรณี แอบอ้างนำ อย. มาใช้ ประชาชน จะรู้ได่อย่างไรว่า ถูกต้องหรือแอบอ้างมาใช้  ผมแนะนำเว็บ แอพพลิเคชั่น https://oryor.com ซึ่งสามารถลองเข้าไปตรวจเช็คกันก่อน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ช่วยอะไรได้อีก ยุคนี้การจะทำธุรกิจกับใครเช่น ชวนมาลงทุน หรือร่วมหุ้นจะมาในรูปแบบ MLM หรือที่เรียกว่า Multi Level Margeting ธุรกิจในรูปแบบเครือข่าย ซึ่งก็มีรูปแบบ สินค้าแตกต่างกันไป แต่ก่อนอื่น ผมแนะนำให้ทุกท่านสมัครสมาชิกในเว็บ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก่อน แล้วตรวจข้อมูลดูว่า จัดตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ อะไร ก่อตั้งมากี่ปีแล้ว ส่งงบการเงินบ้างไหม ผลประกอบการ เขาพอที่จะจ่ายคืนผลตอบแทนอย่างที่บอกได่หรือไม่

พัฒนาการของการเปิดข้อมูลของภาครัฐ จะต้องมีเพิ่มขึ้น ตัวอย่างของ ข้อมูลการใช้งบประมาณ ปัจจุบันเราสามารถตรวจสอบได้แล้ว ในเว็บ https://govspending.data.go.th  สามารถเข้าไปดูงบประมาณ จัดซื้อจัดจ้าง หรือค้นหาด้วย คำค้นก็ได้

ปัจจุบันการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐเพิ่มมากขึ้น ปีนี้ 2561 กรมบัญชีกลางก็ ขอความร่วมมือกับเว็บไซท์ ท้องถิ่นให้ทำการดึงประกาศฟีดข่าวจัดซื้อจีดจ้างไปแสดงที่หน้าเว็บของแต่ละที่อีกด้วย แต่ก็มีเสียงบ่นว่า Server มักจะปิดทำการทุกวันหยุด และ ช่วงกลางคืนเป็นบางวัน

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561

ว่าด้วยเรื่องความเป็นส่วนตัว (privacy) ในยุคสังคมออนไลน์



สัปดาห์นี้จะไม่พูดถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวไมไ่ด้เพราะมีสองข่าวใหญ่ที่พูดกันในวงกว้างข่าวแรกเรื่อง ข้อมูลผู้ใช้ Facebook ตกไปอยู่ในมือของ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล และเรื่องที่สองที่กำลังฮอทมากในบ้านเรา ที่ตามมาติด ๆ ก็เรื่อง ข้อมูลภาพบัตรประชาชนของผู้สมัครใช้โทรศัพท์ของค่ายมือถือ True ที่ถูกค้นเจอเพราะเปิดเป็น public เอาไว้ในบริการของ AWS S3 สองเรื่องนี้เกิดขึ้นต่าง กรรมต่างวะระกันก็จริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟสบุค ผ่านมาจนมีผลทางการเมืองผมขอสรุปคราวๆดังนี้

สรุปเรื่องของเฟสบุค
ข้อมูลส่วนตัวในเฟสบุคหลุดได้อย่างไรเป็นที่รู้กันว่า เฟสบุคอำนวยความสะดวกให้แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ใช้สมาชิกของเฟสบุคสมัครใช้งานได้โดยผ่าน API ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเพียงแต่ก่อนจะเล่นเกมส์หรือใช้แอปพลิเคชั่นนั้นก็แค่ยอมรับให้แอปนั้นสามารถเข้าถึงตัวตนของเราได้เช่นชื่อ ในยุคแรก เฟสบุคให้เข้าถึงได้ว่าเพื่อนเรามีใครบ้างและแต่ละคนเชื่อมโยงถึงใครบ้าง แต่ต่อมาภายหลัง ข้อตกลงนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่มีผู้ที่เคยทำแอปพลิเคชั่นในยุคนั้นก็คือนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ชื่อ Aleksandr Kogan สร้างแอป ชื่อว่า thisisyourdigitallife ซึ่งมีคนประมาณ 270,000 คนดาวน์โหลดและ ให้ข้อมูลของพวกเขา แต่ Kogan ยังคงเก็บข้อมูลผู้ใช้เอาไว้และนำมาใช้กับ Cambridge Analytica ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลช่วงเลือกตั้งให้กับ ประธานาธิบดี ทรัมป์ มีโปรไฟล์ของผู้ใช้งานเฟสบุคถึง 50 ล้านคน Cambridge Analytica ได้นำมาวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมายโฆษณาทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเรื่องเหล่านี้รุ้ถึงผู้ใช้งาน facebook จึงทำให้เกิดแคมเปญ หรือ แฮชแทก Delete Facebook จากผู้ใช้ทั่วโลกหนึ่งคนที่โดงดังมากและลบเพจออกไปก็คือ Elon musk ได้ทำการลบ page ที่ชื่อ Space X และ Tesla เรื่องการนำข้อมูลไปใช้ The Guardian เปิดเผยโครงการนี้ในปี 2015 Facebook จึงบอกให้ Kogan และ Cambridge Analytica และขอให้ลบข้อมูลทั้งหมด ที่พวกเขามีเพราะเป็นการละเมิดกฎของ Facebook แต่รายงานกล่าวว่าในความเป็นจริง,

Cambridge Analytica และ Kogan ไม่เคยลบข้อมูล และ Facebook ไม่เคยตรวจสอบเพื่อดูไม่ว่าจะเป็นการลบข้อมูลตามที่ได้แจ้งไว้ นี้ได้รับหัวใจของสาเหตุที่บางคน กำลังลบบัญชี Facebook ของตนเองตอนนี้




สำหรับใครที่อนุญาตให้แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เข้ามาสามารถเข้าไปยกเลิกได้. ให้ไปที่ การตั้งค่า > คลิกที่ แอปและเว็บไซต์


อะไรที่ไม่ต้องการแล้วก็ลบออกไปบ้าง นะครับ งานนี้ถ้าเฟสบุคถอดใจก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะปัจจุบันคนติดเฟสบุคกันมากมาย



เรื่องที่สองเกิดขึ้นในบ้านเรา

สดๆ ร้อน ๆ จะเรียกว่าถูก hack ได้หรือไม่เพราะการ hack น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าถึงในระบบปิดและสามารถเข้าถึงได้ การพบครั้งนี้ เป็นการค้นเจอของ Niall Merigan ว่า True ได้ทำการเปิด Public ภาพบัตรประชาชนของผู้ใช้ โทรศัพท์ 46,000 ไฟล์ รวมแล้วมีขนาด 32G เป็นบัตรประชาชนในการซื้อซิมพร้อมเครื่อง  ผู้เชียวชาญในเฟสบุคหลายคนต่างวิภาควิจารกันว่า เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดในการตั้งค่าของผู้รับผิดชอบ เพราะปกติ Cloud Storage S3 จะถูกตั้งให้ค่าเริ่มต้นเป็น private อยู่แล้ว Niall Merigan เป็นคนทำหน้าที่สำรวจตรวจสอบผู้เข้ามาใช้บริการของ Amazon S3 อยู่แล้ว หลังจาก true ทราบการแจ้งเตือน ใช้เวลาแก้ไขเกือบสัปดาห์ กว่าจะปิด


ปัจจุบันทางตัวแทนของ True ได้เข้าให้การกับ กสทช แล้ว

เรื่องของ Privacy เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องต้องให้ความตระหนักในเรื่องนี้มากๆ เพราะสองเรื่องที่เกิดขึ้นมีทั้งผู้ใช้บริการให้ความยินยอม และ ไม่ให้ความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ในต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและหากนำไปใช้ในการให้คุณให้โทษกับบุคคลอื่นได้ยิ่งเป็นปัญหาวุ่นวายตามมาแน่นอน 

ในบ้านเราการละเมิดความเป็นส่วนตัวเกิดขึ้นมากมาย บางทีพ่อแม่ที่อยู่ทางบ้านก็ได้รับโทรศัพท์เชิญชวนให้รับข้อความ SMS ดูดวงรายวัน รายงานผลสลากกินแบ่งฟรี แต่ไม่บอกว่าหลังจากกี่วันไปแล้วจะเสียข้อความละ 3 บาท 6 บาท หรือ 9 บาท พอเงินในบัตรเติมเงินหมดเติมใหม่เข้าไปก็ถูกหักเงิน กว่าจะรู้ตัวก็หมดไปคนละหลายพัน หรืออยู่ดีดีก็เอาข้อมูลของเราไปให้บริษัทประกันโทรมาขายประกัน ขายบริการเสริม โทรศัพท์ ไม่เว้นวันเวลาพักผ่อนหรือวันหยุด หรือ เวลาทำงาน 

การเข้าถึงพฤติกรรมของผู้ที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าในสินค้าหรือบริการต่างๆ เป็นเรื่องที่น่าสนใจของการวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องการทำ Data mining เพราะจะได้ซื้อโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

ข้อมูลบัตรประชาชนเอาไปทำอะไรได้จะขอยกตัวอย่างเช่น การเอาไปสวมสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์ต่าง ๆ ที่ให้นักศึกษาเซ็นแทนก็เกิดขึ้นมาแล้ว การเอาชื่อพร้อมสำเนาบัตรไปแนบลงรายการผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการยอดจำนวน ก็มี...

การตอบคำถามในการเข้าถึงการใช้บัตรเครดิตร ต้องใช้ข้อมูลของผู้ถือบัตร