แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ apple แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ apple แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

3 คู่ศึกสงครามเทคโนโลยี

 3 สงคราม  เทคโนโลยี

วันนี้วันที่ 30 มิถุนายน Disney เปิดตัว Disney+Hotstar ในประเทศไทย การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้เด็กๆใจจดจ่อ เพราะจะได้ดูการ์ตูน ที่พวกเขาชื่นชอบหรืออาจจะได้ดูซีรีย์ใหม่โลกิ แห่ง แอสการ์ด ซีรี่ย์ใหม่ ที่จะมาเข้าฉายในช่อง ดิสนีย์ เนื่องจากค่าย Marvel  ทาง Disney ทำการซื้อกิจการไว้เป็นที่เรียบร้อย หลายปี ดังนั้นใครที่ชื่นชอบ ซีรีย์และการ์ตูนของ Marvel คงจะได้ชมกัน รวมถึง ภาพยนต์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนต์ที่เราไม่สามารถดูได้เนื่องจาก สถานการณ์ โรคระบาด ที่สำคัญล่าสุดดิสนีย์ได้ซื้อกิจการของ Lucasfilm จากจอร์จลูคัสที่เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งมี ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Star Wars มูลค่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ สำหรับสงคราม Streaming ในเมืองไทย การเปิดตัวของ Disney+Hotstar ในครั้งนี้ค่าสมาชิก ปีละ 799 บาท

นอกจากภาพยนตร์ Star Wars แล้ว Disney ยังได้ Star Wars Land ทั้งสอง แห่งที่กำลังก่อสร้าง เป็นสวนสนุกในแคลิฟอร์เนียและฟลอริดารายการ TV Star Wars ไปด้วย

งานนี้เล่นเอา netflix ในต่างประเทศก็งัดไม้เด็ด เซ็นสัญญากับ สตีเวน สปิลเบิร์ก ที่จะสร้างภาพยนต์ 2 เรื่อง ต่อปี หลายคนบอกว่าดีลครั้งนี้ พลิกโฉมวงการฮอลลีวู้ด เพราะว่า สตีเวน เคยเรียกร้องไม่ให้ netflix ชนะรางวัลออสการ์มาแล้วแต่ตอนหลังก็มาแสดงจุดยืนว่าเขาสนับสนุนความบันเทิงในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นจอใหญ่หรือจอเล็ก

ช่วงหยุดอยู่บ้านแบบนี้ทั้งสองค่าย Streaming คงได้สมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ใครชอบภาพยนตร์ของใครก็เลือกดูกันได้ตามใจชอบ

สงคราม TECH WAR ยุคใหม่ระหว่าง Apple และ Microsoft

สงครามเทคโนโลยีระหว่าง Microsoft และ Apple งั้นได้ยุติลงมาหลายปีแล้วหลังจากที่ บิลเกตส์ ร่วมลงทุนใน Apple 150 ล้านดอลลาร์ สมัยก่อน Bill Gates และ Steve Jobs ขัดแย้งกันในเรื่องของ Steve Jobs กล่าวหาว่า Microsoft ขโมยความคิดของ Apple ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเรียนแบบระบบปฏิบัติการ ของ Apple และเรื่องราวก็ได้ยุติลงในช่วงปี 1997 ในช่วงที่ Steve Jobs กลับเข้ามาบริหารบริษัท Apple อีกครั้ง 

ปัจจุบันทั้ง Apple และ Microsoft ก็ได้เปลี่ยนตัว CEO ไปแล้ว แต่สงครามระลอกใหม่ก็กำลังเกิดขึ้น Microsoft เตรียมตัวออก Windows 11 ปลายปีนี้ และก็ได้ไป ผูกมิตรกับศัตรูของ Apple ถึง 3 ค่ายด้วยกัน คันแรกก็คือ Amazon ที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมา เรื่องการนำเอา Application ขึ้นไปขายใน App Store ของ Apple ซึ่ง Amazon ไม่ยอม จ่ายค่าการตลาด 30 เปอร์เซ็นต์ให้กับ Apple เนื่องจากว่า Application ของ Amazon มีการซื้อขายภายในแอป ไม่ใช่แค่ซื้อ App อย่างเดียวแล้วจบ

ล่าสุด Apple ก็มีปัญหากับบริษัท ที่ epic Game Store ที่ต้องการให้ Apple ลดค่าการตลาดลงจาก 30% เมื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ผ่าน App Store แต่ Microsoft ก็ไปจับมือกับ บริษัทผลิตเกมแห่งนี้ ซึ่งเกมการฟ้องร้องในครั้งนี้ ก็มี Microsoft ให้การสนับสนุนทางด้านกฎหมาย ด้วยเช่นกัน Apple ถูกกล่าวหาว่าผูกขาดใน App Store เพราะ epic game จ่ายรายได้ให้นักพัฒนา 80% ปัจจุบัน Apple ได้ถอด epic game ออกจาก Store ไปแล้ว

Windows 11 ของ Microsoft จะสามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่น Android บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ Microsoft อยู่แล้วต่างตื่นเต้นว่าจะสามารถติดตั้ง Application ที่อยู่บนโทรศัพท์มือถือ Android ได้ด้วย ไม่ชอบเองเก่าว่าเขาจะลดราคา ค่า การตลาดลงให้ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่ผลิต Application ต่างๆมุ่งหน้ามาที่ Android และ Microsoft มากขึ้น Google เป็นอีกบริษัทที่ Steve Jobs โกรธ ที่ทำระบบปฏิบัติการออกมาเลียนแบบ ถึงขนาด ถอด Google Map ออกไปจากระบบปฏิบัติการ iOS

ปิดท้ายด้วยสงคราม อินเทอร์เน็ตดาวเทียม โครงการ Starlink ของ elon musk  ปล่อยดาวเทียม เป็นพันดวง เพื่อจะทำอินเตอร์เน็ตดาวเทียมวงโคจรต่ำ ตอนนี้เขามีคู่แข่งแล้วนะครับจีนก็เริ่มทำ 

บริษัท LinkSure Network ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีดาวเทียมและอินเทอร์เน็ตของจีนเปิดตัวโครงการ LinkSure Swarm Constellation System ซึ่งเป็นโครงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบดาวเทียม เพื่อให้ประชากรบนโลกสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

โครงการดังกล่าวจะประกอบด้วยดาวเทียม 272 ดวง ที่จะถูกปล่อยขึ้นสู่วงโครจรในแต่ละระดับและเคลื่อนที่อยู่รอบโลก และสำหรับดาวเทียมดวงแรกของโครงการที่ชื่อว่า LinkSure หมายเลข 1 จะถูกปล่อยจากฐานปล่อยดาวเทียมจิ่วฉวน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนไปแล้วเมื่อ ปี 2019 และภายในปี 2020 ทางบริษัทจะปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอีก 10 ดวง 

เพื่อที่จะให้ ประชาชนชาวจีนนั้น ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่านดาวเทียมซึ่งจะครอบคลุมในพื้นที่ เสาสัญญาณเสาโทรศัพท์นั้นไปไม่ถึง หรือไม่ต้อง ใช้สาย Fiber Optic อันนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง ครั้งแรกหลายคนกลัวว่า elon musk จะเข้าไปตีตลาด 5g หรืออินเตอร์เน็ต ความเร็วสูงวงโคจรต่ำ ที่ประเทศจีนดังนั้นรัฐบาลจีนก็รับมือ ด้วยเพื่อควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ตของประชากรในประเทศ ประชาชนชาวจีนนั้น ยังชม netflix เหมือนพวกเราชาวไทยไม่ได้


วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

ทำไมช่วงนี้ Apple สนใจด้านการศึกษาเป็นพิเศษ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 Apple ทำการเปิดตัว ipad ใหม่แบบไม่ค่อยฮือฮาเท่าไหร่ แต่ที่จะน่าสนใจตรงที่ ราคาเริ่มต้นที่ 11,000 บาท เพราะงานนี้ Apple เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงเรียนเป็นหลัก ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว สามารถใช้ Apple pen ได้ เพราะ Apple pen ก่อนหน้านี้จะใช้งานได้เฉพาะ รุ่นใหญ่คือ ipadPro เท่านั้น Apple ชูความเหนือชั้นที่จะใช้ในการเรียนการสอนด้วย Application ที่เกี่ยวข้องกว่า 400,000 App และเพิ่มเนื้อที่ iclound ให้ 100 G สำหรับโรงเรียน และกำลังจะเปืดตัว Application จัดการห้องเรียน ที่เรียกว่า classroom ซึ่งก่อนหน้านั้นยังไม่มีมาก่อน
https://www.apple.com/th/ipad-9.7/

สาเหตุอะไรทำไม apple จึงมาเน้นการตลาดการศึกษาในช่วงนี้ น่าจะเกิดจาก

Google ได้เริ่มโปรโมท chromebook อย่างจริงจัง และมีบริษัทผู้ผลิต คอมพิวเตอร์รายใหญ่ๆ นำระบบปฏิบัติการ ChromeBook OS ไปติดตั้งและทำสเปคให้เหมาะสม เช่น acer, hp ,dell , samsung, asus ราคาอยู่ที่ 200$ เบ็ดเสร็จแล้วราคา พอๆกับ new ipad สำหรับการศึกษา

ChromeBook มีแอปพลิเคชั่น ที่ติดตั้งผ่าน Browser Chrome ที่เรียกว่า Chrome web store Google จะได้เปรียบตรงที่มี email  สำหรับโรงเรียน โดยที่โรงเรียนจะใช้โดเมนของตัวเองในการส่งเมล์.และ สร้างความคุ้นเคยกับผู้ใช้งานทั่วไปผ่าน Chrome Browser ที่ติดตั้งใน.OS อย่าง.Windows . Linux . Mac มี แบตเตอรี่ ที่ใช้งานได้เกือบ 10 ชั่วโมง

https://www.google.com/chromebook/

อีกค่ายยักษ์อย่าง ไมโครซอฟต์ ก็มี ผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนกัน แต่ ก็ยังไม่มีฮาร์ดแวร์ ในราคาประหยัด มามากสักเท่าไหร่นัก และได้ดำเนินรอยตาม Google มาติดได้ปล่อยให้โรงเรียนใช้ License ในรูปแบบของ School โดยมี office 365 เป็นตัวหลัก และ email สำหรับโดเมนของโรงเรียนเช่นกัน

ทั้งสามค่ายมีข้อได้เปรีบบเสียเปรียบที่แตกต่างกัน apple ได้เปรียบเรื่อง Hardware และ Software ที่ควบคุมคุณภาพ Hardware ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับ Software เวลาเกิดปัญหาอะไรที่ผ่านมาApple ก็ เปลี่ยนให้ ถึงแม้ Apple จะไม่มี email ให้บริการ แบบ ไมโครซอฟต์และ Google แต่ก็สามารถติดตั้ง Application ลงไปได้ของทั้งสองค่าย Apple ยังไม่ได้ให้ฟรี พื้นที่เก็บข้อมูล Cloud Storageให้กับคนทั่วไปถึง100G แต่ให้ฟรีสำหรับโรงเรียน น่าจะเป็นตัวเลขการแข่งขันในอนาคต.

Google จะเสียเปรียบเรื่องเนื่อหาสาระในรูปแบบดิจิทัลสำหรับเด็ก ที่ apple ออกแบบมาให้น่าใช้มากกว่า แต่ถ้า google ทำการตลาดให้เกิดการใช้งานที่มากพอ ก็จะมีคนสร้างแอปดีดี ออกมาให้

ในบ้านเราทั้ง Apple และ Google คงต้องเหนือย อีกเยอะกับการช่วงชิงตลาดการศึกษามาจากไมโครซอฟต์

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เมื่อ Face ID ของ iPhone x ปลดล๊อกได้จากเด็ก 10 ขวบ

มีวีดีโอใน youtube เผยแพร่ออกมาหลังจากที่ iPhone X ส่งมอบถึงมือลูกค้าไม่นานว่า การปลดล๊อกจากใบหน้าของผู้ใช้งานนั้น สามารถทำได้ ครอบครัวของ Attaullah Malik  เมื่อได้ iphone x มาก็ตั้งค่าใช้งานรวมถึงการปลดล๊อกด้วยใบหน้า เมื่อ เธอวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ลูกชายวัย 10 ขวบของเธอก็ได้นำโทรศัพท์ไปเล่น จึงสร้างความประหลาดใจว่าปลดล๊อกได้อย่างไร ลูกชายก็เลยทำให้ดูด้วยการใช้ใบหน้าของเขา


ถ้าดูจากวีดีโอ แม่กับลูกจพหน้าตาคล้ายกันมาก เหตุการณ์แบบนี้ทางแอปเปิล ระบุว่าเกิดขึ้นได้ไม่มาก 1 ในล้าน โดยเฉพาะกับแฝด แต่ ระบบโครงข่ายประสาทเทียมหรือ AI จะเริ่มเรียนรู้ในเวลาต่อๆ มาการปลดล๊อกก็จะยากขึ้น โดย จะมีการถามรหัสผ่านที่ตั้งซึ่งเอกสาร ความปลอดภัยของ Apple ระบุไว้ว่า เราสามารถใช้รหัสผ่าน แทน face id ได้ในกรณีต่อไปนี้ (เอกสารด้านความปลอดภัย)
  • อุปกรณ์มีการเปิดขึ้นใหม่
  • อุปกรณ์ไมไ่ด้มีการปลดล๊อก 48 ชั่วโมง
  • รหัสผ่านไม่ได้ถูกใช้เมื่อ 156 ชั่วโมงและ face id ไม่ได้ปลดล๊อกในช่วง 4 ชั่วโมง
  • โทรศัพท์ได้รับการปลดล๊อกด้วย remote
  • หลังจากประสบความสำเร็จในการจับคู่ด้วยใบหน้า 5 ครั้ง
Apple ยังบอกว่าความน่าจะเป็นในการปลดล๊อกด้วยใบหน้ามีโอกาส 1 ในล้าน ซึ่งดีกว่า touch ID ที่มีโอกาส 1 ต่อ 50000 

ต่อมาก็มีคนปลดล๊อก FaceID ได้จากการสร้างหน้ากาก


มีคนสร้างหน้ากาก สามมิติ ขึ้นมาเพื่อทำการปลดล๊อก แต่ไมไ่ด้ให้รายละเอียดว่าในช่วงตั้งค่านั้นได้มีใบหน้า อื่น ๆ มาร่วมในการจับคู่ด้วยหรือไม่  ถ้ามองในทางกลับกัน การขโมยโทรศัพท์มาแล้วลงทุนสร้างหน้ากาก เพื่อปลดล๊อกจะเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ยาก

แหล่งที่มา macrumors

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

การเปิดตัว iPhone 8, iPhone X แต่ที่มากกว่านั้นคืออะไร

การเปิดตัวของ apple เมื่อคืนนี้เป็นการเปิดตัวที่ steve jobs theater และเป็นการเปิดตัวครั้งแรกเป็นสถานที่ ที่เรียกว่า Apple University เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอามากๆ Apple ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและสิ่งแวดล้อมภายใน ที่น่าอยู่มาก จะมี Apple park อยู่ในนั้นด้วย นี้คือที่ทำงานแห่งใหม่ ที่สตีปจ็อบส์ เองอยากสร้างเพื่อให้พนักงานได้มีส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ เห็นแล้วน่าไปทำงานด้วยจริงๆ ตัวอาคารหลังคาประกอบด้วย แผงโซล่าเซลทั้งหมด มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก แอปเปิล พยายามจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า แอปเปิลไทม์สแควร์ในหลายแห่ง