วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Deepfake ปัญหาการปลอมภาพหรือวีดีโอเหมือนจริง

โลกของเราต้องรับมือกับ Deepfake การสร้างภาพปลอมหรือวิดีโอปลอมที่ทำได้เหมือนจริงมากๆ

[1]Deepfake เป็นงานวิจัยหนึ่งชื่อ computer Vision ในสาขา วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ โดยพื้นฐานนั้นมาจากการนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาประมวลผลภาพด้วยคอมพิวเตอร์ โดยนำภาพจากวีดีโอ แยกออกมาเป็นเฟรม แล้ว จากนั้นให้ปัญญาประดิษฐ์ นำเอาภาพที่มีความคล้ายคลึงกันในแต่ละอริยบท มาทำการ ทดแทนลงไป โปรแกรมคอมพิวเตอร์จะสั่งเคราะห์รูปร่างของปากให้ตรงกับเสียง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ การตัดต่อเสียงและมีภาพประกอบมีความสมจริงมากขึ้น

[1]Deepfake เกิดขึ้นเมื่อประมาณปลายปี 2560 โดยผู้ที่ใช้ reddit เป็น Social Media เขาใช้นามแฝงว่า Deepfakes  ได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้ทำการเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับใบหน้าของ คนดัง ที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นร่างของนักแสดงหญิง ในวีดีโอลามก และก็มีวีดีโอ หลายเรื่องที่เขาใช้ใบหน้าของนิโคลัสเครส มาตัดต่อลงในวีดีโอของเขา

ในทางการเมือง อาจถูกนำมาใช้เพื่อบิดเบือนความจริง โดยอาจจะทำการตัดต่อเสียงพูดและให้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ใบหน้าและปากให้ตรงกับ เสียงพูดใหม่ที่ตัดต่อมาแล้ว

[2]หน่วยวิจัยขั้นสูงกระทรวงกลาโหมของโซเวียต(DARPA)ไม่นิ่งนอนใจ ในเรื่องนี้ออกมารับเป็นเจ้าภาพในเรื่อง ที่จะสร้างเครื่องมือตรวจจับ Deepfake แล้วทำการควบคุมเพื่อไม่ให้ ข่าวปลอม ที่สร้างจาก Deepfake นั้นถูกเผยแพร่ ออกไป


ในประเทศไทยเอง เห็นมีรายงานข่างว่า รัฐมนตรี กระทรวง DE จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องของข่าวปลอม ซึ่งปัจจุบันข่าวปลอมในบ้านเรามักจะเอามาจากข่าวจริงนิดหนึงแล้วบิดเบือน หรือ มาจากการปล่อยข่าว หรือ มีคลิปเสียงออกมาแค่นั้น ยังไม่ค่อยมีการนำวิธีการนี้มาใช้

แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงเพราะเครื่องมือที่นำมาใช้เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สซึ่งจะไม่ขอบอกว่าเป็นซอฟต์แวร์อะไร หากมีใครเอามาสร้างข่าวปลอม กระทรวง DE จะรับมือเรืองนี้อย่างไร ต่อไปนี้ ข่าวปลอมคงไม่ใช่แค่ทำเว็บ หรือ ตัดต่อภาพนิ่งอย่างเดียวอีกต่อไป

อ้างอิง
 [1] https://en.wikipedia.org/wiki/Deepfake
[2] https://www.nextgov.com/emerging-tech/2019/08/darpa-taking-deepfake-problem/158980/

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Facebook กำลังทำการทดลอง ถอดรหัสคลื่นสมอง ออกมาเป็นข้อความ


จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโลกในอนาคตอันใกล้นี้มนุษย์จะสามารถถอดรหัสคลื่นสมองออกมาเป็นข้อความได้
ข่าวนี้ถูกเปิดเผย มาจาก Facebook ว่า Facebook เองนั้นกำลัง มีโครงการทดลองพิมพ์ข้อความ จากสมอง โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดแต่อย่างใด

Facebook ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในความพยายามที่จะ วิจัยเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ University of California. Facebook ได้ทำการร่วมวิจัยเพื่อศึกษาว่าขั้วไฟฟ้าที่อยู่ในสมองสามารถช่วยให้เราเรียนรู้และถอดรหัสคำพูดจากคลื่นสมองแบบ real time หรือไม่

ทุนการศึกษาที่เปิดเผยมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่านักวิจัยสามารถ เห็นได้ทันทีเป็นข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นวลีของผู้เข้าร่วมวิจัยด้วยการดูกิจกรรมของสมองชุดของคำตอบในการตอบคำถามที่กำหนดเอาไว้ เพื่อศึกษาผู้ป่วยที่เป็นโรคลมชัก 3 คนด้วยการ สมัครใจ

Facebook เปิดเผยว่าถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาอันยาวนานที่จะศึกษาในเรื่องนี้ ถ้าหากว่าประสบความสำเร็จมันก็จะช่วยทำให้มนุษย์สามารถสื่อสารได้จากสมองเพื่อบอกไปยังสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น
สัญญาณของสมองนั้นที่ได้ออกมาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับ ช่วยเหลือ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคลมชักส่งข้อความ ซึ่งอาจจะสำเร็จภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Mark chevillet หัวหน้านักวิจัยของ Facebook Reality Labs กล่าวถึงในการวิจัยเรื่อง Brain computer Interface ได้บอกกับผู้สื่อข่าว CNN Business ว่าการวิจัยในครั้งนี้อาจจะใช้เวลานานกว่า 10 ปี
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้

ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2017 ในงาน F8 ซึ่งเป็นงานสำหรับการประชุมวิชาการของนักพัฒนา Facebook ได้ วาดภาพอุปกรณ์ประหลาดชนิดหนึ่งที่จะรับสัญญาณจากสมองและสามารถพิมพ์ข้อความได้ 100 คําต่อนาที
อุปกรณ์ดังกล่าวยังเป็น หนทางอีกยาวไกลสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่จะทำการเชื่อมต่อ สมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Brain computer Interface

จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเกี่ยวกับงานวิจัยของ Facebook แต่ในความเป็นจริงแล้วหลังจากที่พูดบนเวทีจากนั้นอีกหกเดือน Regina Dugan หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ลับของ Facebook ก็ได้รับงานชิ้นนี้ลงไปในห้องปฏิบัติการของเขาแล้วที่ตะต้องทำให้สำเร็จ

และเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ได้กล่าวถึงที่ harvard ว่า เขากำลังจะมีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มและการคำนวณบางอย่างให้มีความสัมคัญกับผู้คนมากขึ้น
การฝัง Electrodes บนสมองของผู้ป่วย

การวิจัยในครั้งนี้ ดูหนังออนไลน์ได้รับอาสาสมัครผู้ป่วย โรคลมชักที่อยู่ที่โรงพยาบาล 3 คน ด้วยการติดตั้ง เครื่องมือชนิดนี้และ รายการ ยิงคำถามถามผู้ป่วย จากนั้นก็จะติดตามคลื่นสมองโดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้วย Machine Learning อัลกอริทึม โดยให้ คอมพิวเตอร์เลือกคำตอบที่เตรียมเอาไว้ 24 คำตอบ
การแปลสิ่งที่เกิดขึ้นในสมองออกมาเป็นคำพูดนั้นยาก แต่ถ้าหากว่าประสบความสำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้มันจะทำให้ช่วยผู้คนที่สูญเสียความสามารถในการพูดได้อีกมาก

แหล่งที่มา CNN-Business July 30, 2019