เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังข้อมูล บทบาทของโอเพนซอร์สต่อองค์กรธุรกิจ จัดโดย Red hat พบว่าโลกทุกวันนี้การ ขับเคลื่อนนวัตกรรมทั้งหมดของเทคโนโลยีโดยมากใช้โอเพนซอร์ส ไม่ว่าวันนี้เราจะใช้บริการจาก คราว์นคอมพิวติ้ง ของใครก็แล้วแต่เบื้องหลังนวัตกรรมจะใช้เทคโนโลยีแบบเปิด 76% ของ cloud สร้างจากโอเพนซอร์สเทคโนโลยี ปัจจุบันลูกค้า ไม่ได้สนใจแล้วว่าเทคโนโลยีจะเป็นแบบปิด หรือ แบบ เปิด แต่ขอให้เทคโนโลยีเหล่านั้น ตอบโจทย์ และความต้องการที่จะสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว แนวคิดนี้เปลี่ยนไปมากแล้วในยุคนี้ กับคนรุ่นใหม่ๆ
หากวันนี้ การพัฒนาโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นเป็นในรูปแบบ เก่าที่เราเรียกกันว่า (Water flow model) จะทำให้ใช้เวลามากกว่าคู่แข่ง ที่ส่วนมาก หันมาใช้วิธีการพัฒนาแบบ Agile ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นว่า เครื่องมือในการควบคุมและจัดการให้นักพัฒนา ทำงานร่วมกันได้ เช่น Jira soft หรือ trello รวมถึง Git hub มีให้เห็นออกมา หรือ บางแห่งอาจจะใช้ Post it ในการเริ่มวิเคราะห์ และออกแบบ โดยวิธีการจะทำงานร่วมกับผู้บริหาร ลูกค้า นักพัฒนา โปรแกรมเมอร์ในแขนงต่าง ๆ นักวิเคราะห์ระบบ และ system admin
แต่เนื่องจากว่าการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในรูปแบบนี้สิ่งที่พบก็คือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหม่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้อีกทั้งในการทำงานด้วย วัฒนธรรมการทำงานแบบนี้ บางคนจะไม่คุ้นเคย
เทคโนโลยีที่ทำให้นวัตกรรมที่เราคิดเกิดได้อย่างรวดเร็วปัจจุบัน ก็มีการพูดถึง การนำเอา คอนเทรนเนอร์มาใช้ หรือ การใช้ไมโครเซอร์วิส แยกออกเป็นเพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาแอพพลิเคชั่นในยุคปัจจุบัน
บทบาทของ โอเพนซอร์สในปัจจุบันได้เข้ามามีส่วนในนวัตกรรมหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ML , AI , IoT, Big data และอื่น ๆ เป็นความตั้งใจของ Red hat ที่สร้าง Innovation Labs เพื่อที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกค้า ตั้งแต่ Prework >> Residency >> Post-Residency โดยการเปิดให้ลูกค้าเข้ามาใช้ Redhat Open Innovation Labs ซึ่งทั้งโลกนี้มีบริการอยู่ 3 แห่ง คือ บอสตั้น ลอนดอน สิงคโปร ถ้าเป็นประเทศไทย ก็คงต้องไปที่ สิงคโปร์ ปัจจุบันลูกค้าที่มาใช้บริการ มาจาก Finance , Goverment, Telco , Enterprise
กิจกรรมในภาคพื้น เอเซียแปซิฟิค เช่นการจัด Workshop เรื่อง Agile และ DevOps ที่มาเลเซีย ที่ออสเตเรีย เรื่อง Agile and DevOps workshop
โปรแกรมที่ เข้าร่วมตอนนี้ จะเป็นแบบ Residency Program ซึ่งจะอยู่กัน 6 week ยกตัวอย่าง เช่น
employment services จาก Australia ระบบ Financial services จากอินเดีย มาเลเซีย และ ญี่ปุ่น
Use cases เช่น Heritage Bank และอีกแห่งที่ลูกค้าให้เปิดเผยได้ บริษัทประกันภัย อย่าง Motability
การที่ red hat สร้าง Innovation Labs จะช่วยทำให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น start up ที่เพิ่งจะเริ่มต้นก็จะมีพี่เลี้ยง ที่จะลงมือสร้าง นวัตกรรม บริษัทที่ต้องการสร้างงานบริการเพื่อให้ตอบโจทย์ที่มีการปรับเปลี่ยน อย่ารวดเร็วเพื่อรับมือกับภาวะการแข่งขันในยุคปัจจุบัน เพราะ redhat มีผู้มีประสบการณ์ที่จะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้แบบ 1 ต่อ 1 นี้คือจุดเด่นที่เราจะได้รับการ ถ่ายทอด ความรู้และประสบการณ์ จากผู้เชียวชาญ
ผมได้สอบถามด้านการศึกษา (Red Hat Academy) ที่เปิดให้มหาวิทยาลัย ได้ใช้ Platform , middleware และ Cloud technologies ได้ฟรี เพื่อใช้ในการเรียนการสอน เช่น วิศวกรรม ซอฟต์แวร์ การได้ลงมือปฏิบัติกับเทคโนโลยีจริง ๆ ซึ่งมหาวิทยาลัยในไทยสามารถใช้ได้ ถ้าเรามองว่า 75% ของ Clouds ใช้ Open Source ขับเคลื่อนยิ่งเป็นโอกาสทีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะเข้าถึงเทคโนโลยีแบบนี้ได้ เช่น Open Stack , Open shift
มีนักข่าวถามผู้บริหารของ redhat ว่าในเมืองไทยรัฐบาลไม่ได้พูดถึง โอเพนซอร์ส นานแล้วเป็นอุปสรรคหรือไม่ Demien Wong Vice President and general Mnager, Asian Growth & Emerging Markets(GEMs) ของ Red hat สิงคโปร์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะทั่วโลก ไม่ได้พูดถึงว่าอะไรเป็นโอเพนซอร์สหรือไม่เป็น แต่เรากำลังพูดถึงวิธีการขับเคลื่อน นวัตกรรมที่จะตอบโจทจ์ และ การทำ digital tranfrom ที่ช้าไม่ได้และการที่ ไม่ user login ซึ่งหมายถึงการที่ลูกค้าเลือกใช้เทคโนโลยีอะไรแล้วติดเข้าระบบย้ายไปไหนไม่ได้แต่ซึ่ง Open innovation จะตอบปัญหาเหล่านี้ได้
Red Hat เป็นผู้นำด้าน open source ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตั้งแต่ ปี 1993 ถึงตอนนี้ก็ 25 ปีแล้ว ปีปัจจุบัน รายได้อยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญ เป็นบริษัทที่เติบโตแบบต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น