วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ต้องระวังอะไรเมื่อใช้งาน ClubHouse

 สัปดาห์นี้จะไม่พูดถึงแอปพลิเคชั่น Clubhouse ก็ไม่ได้เพราะกำลังเป็นกระแส ที่หลายๆคนพูดถึง แอปนี้อาจจะอยู่ในช่วงจำกัดจำนวนผูใช้งานเฉพาะผู้ที่มี iPhone เท่านั้นและต้องมีคนที่ใช้งานอยู่ก่อนหน้าทำการ Nominate ซึ่งเปรียบเสมือนการเสนอชื่อหรือเป็นการรับรองการใช้งาน ว่าบุคคลนี้มีตัวตนจริง ๆ และ 1 คนสามารถ Invite ต่อไปได้แค่สองคนเท่านั้น

Clubhouse ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 โดยผู้ประกอบการใน Silicon Valley Paul Davison และ Rohan Seth ในเดือนพฤษภาคม 2020 มีผู้ใช้เพียง 1,500 ซึ่งเริ่มจากมีการพูดถึงกันอย่างมากในสหรัฐตั้งแต่เดือน กรกฏาคม 2020 

 จากนั้นทั้งสองคนก็ได้ก่อตั้งบริษัท Clubhouse - Alpha Exploration Co. - ได้รับเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์จาก Andreessen Horowitz นักลงทุนที่ชอบลงทุนกับ Tech Startup อ่านประวัติการลงทุนได้จากลิงค์ใต้บทความ ปัจจุบัน Clubhouse มีผู้ใช้งานประมาณ 600,000 คน เมื่อเทียบกับ  Twitter มีผู้ใช้ 330 ล้านคนและในขณะที่ Facebook มีผู้ใช้ 2.7 พันล้านคน 

สาเหตุที่มีการพูดถึงกันมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพราะ มีข่าวว่า Elon Musk และ ไปปรากฏอยู่ใน Clubhouse แล้วสร้างห้องสนทนาชื่อ Elon musk on Good Time ทำให้มีการพูดคุยและพูดถึง จนหลายๆคนสนใจจะเข้าไปใช้งาน ซึ่งมีข้อจำกัดกลุ่มละไม่เกิน 5000 คน กลุ่มเมื่อจบแล้วจะไม่เก็บอะไรไว้กลุ่มก็จะหายไป

ช่วงนี้ Elon musk พูออะไรก็เกิดประเด็น เช่นได้ประกาศว่าไปรายงาน ต่อ กลต. ว่าได้นำเงินไปซื้อ บิทคอยน์ เลยทำให้ราคาขึ้นสูงในสัปดาห์ที่ผ่านมา จริงๆ ก่อนหน้า ทวิชถึง DOGE Coin เหรียญ Crypto ที่ราคาไม่กี่สตางค์ ทำให้วิ่งขึ้นไปสูงถึงสองบาท พอรายงาน ต่อ กลต. ว่า บริษัทได้ถือ Bitcoin เลยทำให้เกิด วิพากษ์วิจารณ์

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. Elon Musk ทวิตข้อความบน Twitter ถึง Vladimir Putin ชวนมาพูดคุยกันบนแอปพลิเคชัน Clubhouse แต่ยังไรการตอบกลับ เราจะเห็นว่า Elon Musk ขยับอะไรตอนนี้ก็สร้างความตื่นตัวได้ตลอด

การสร้างกลุ่ม

เป็นการสร้างกลุ่มใช้งานทันทีเราจะเริมที่ปุ่ม Start a room

Clubhouse เป็นห้องสนทนาด้วยเสียง ไม่สามารถเปิดกล้อง ไม่สามารถพิมพ์โต้ตอบได้ ผู้ฟังต้อง แตะรูปมือเพื่อขอพูดคุย ผู้สร้างห้องจะให้การอณุญาต หรือ ไม่ ก็ได้ การเปิด ห้อง มีสามแบบ สำหรับกลุ่มแบบนี้จะเป็นการตั้งกลุ่มเพื่อใช้งานทันที

เปิดกลุ่มแบบ Open เป็นการสร้างกลุ่มเพื่อให้ผู้สนใจทั่วไปเข้ามาฟัง

เปิดกลุ่มแบบ Social เพื่อให้คนที่ Follow เท่านั้นที่เข้ามา

เปิดกลุ่มแบบ Closed สำหรับเลือกคนที่จะคุยด้วยเท่านั้น คนอื่นไม่สามารถเห็นและเข้ามาได้ กลุ่มปิด น่าสนใจที่จะนำมาใช้ในการประชุม 

การเปิดกลุ่มสนทนาสามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้

เลือกที่ปฏิทิน เข้าไปจะเจอรายการที่กำลังจะเกิดขึ้น
ให้ไปต่อโดยแตะเครื่องหมายบวกเพื่อเพิ่มกิจกรรม

ใส่รายละเอียดลงไป และ สามารถแตะเลือก Add a Co-host or Guast ได้อีกด้วย

บรรยากาศของกลุ่มจะเหมือนกำลังฟังรายการวิทยุ ผู้ที่เข้ามาฟัง สามารถมีส่วนร่วมได้ทันทีไม่ต้องพิมพ์ ใครมีทักษะในการจัดวิทยุ หรือ ควบคุมการสัมนา สามารถใช้ประโยชน์ ในการเชื่อมจัดรายการวิทยุ จัดสัมนาแบบเสียง และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมซักถามด้วยเสียงได้

Clubhouse ไม่เหมือน Zoom ที่ถ่ายทอดหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ หรือ เปิดกล้องวีดีโอการใช้ประโยชน์จึงไม่เหมือนกัน

Clubhouse ไม่เหมือน TikTok ที่ต้องโพสต์ไทม์ไลน์ โพสต์วีดีโอ 

เสน่ห์ของ Clubhouse น่าจะมาจากการที่ผู้เข้าร่วมกลุ่มจะมีความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามาฟัง และหากเปิดให้สามารถพูดคุยได้หลายคนบอกว่าตรงนี้คือเสน่ห์ ปัจจุบันดารานักแสดง นักการเมือง เข้ามาใช้งานจำนวนมาก แล้ว สำหรับผู้ใช้งาน Android คงต้องรอการพัฒนาสักระยะ

ประโยชน์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจ

Clubhouse สามารถนำไปใช้ในการสร้างห้องเรียนออนไลน์แบบเสียง โรงเรียนติวเตอร์ เนื่องจากข้อมูลเป็นเสียงจะใช้ข้อมูลแพคเกจอินเตอร์เน็ตน้อยกว่าข้อมูลแบบวีดีโอมากดังนั้น ในการเรียนออนไลน์หากใช้กลุ่มปิด ของ Clubhouse จะช่วยได้

เราสามารถใช้สร้างห้องสัมนาแบบมีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการโดยผู้ดำเนินรายการพูดถึงผู้ให้การสนับสนุน เหมือน สมัยก่อนเราได้ยินจากคลืนวิทยุ

อินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) สามารถใช้ช่องทางนี้พูดคุยกับแฟนคลับ ได้เนื่องจาก การรวมตัวของผู้คนจำนวนมากไม่เป็นผลดี ต่อการควบคุม COVID-19

ข้อควรระวังในการใช้งาน

การติดตั้ง application ให้เลือกให้ถูกต้องด้วยเพราะมีแอปชื่อเหมือนกันอยู่ด้วยให้ดูที่รูปด้านบนว่าเป็นแอปหน้าตาแบบไหน

ในการติดตั้ง Clubhouse ต้องการเข้าถึงรายชื่อใน Address Book เพื่อจะได้รู้ว่ามีใครใช้งงานบ้างและจะแนะนำให้ใครใช้งานบ้าง 

เนื่องจากการ Invite เป็นการใช้ SMS ค่าบริการ sms ต่างประเทศจะสูงถึงข้อความละ 9 บาทดังนั้นใครใช้ต้องระวังเรื่องค่าบริการด้วยนะครับ

การใช้งานพูดคุยผ่านเสียง ต้องระวังเรื่องการกล่าวพากพิง การพูดเท็จ และการพูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก เพราะการพูดด้วยเสียงถึงแม้ว่าจะแอปจะไม่สามารถบันทึกเสียงได้แต่ผู้ฟัง หรือ ผู้ดำเนินรายการของช่อง หรือบุคคลอื่นอาจจะมีการบันทึกเสียงผ่านเครื่องบันทึกเสียง 

การใช้วาจาไม่สุภาพก็เริ่มมีให้เห็นโดยเฉพาะในกลุ่มสังคมดาราพิธีกรมีชื่อเสียงก็ยังคงใช้คำหยาบ ถึงแม้จะเป็นสื่อที่ใครอยากฟังก็เข้ามา  แต่ผู้ดำเนินรายการ และ ผู้ร่วมรายการก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะการพูดออกสื่อแบบนี้จะไม่สามารถ ดูดเสียง ออกไปได้

อ้างอิง

ประวัติการลงทุนของ Andreessen Horowitz https://en.wikipedia.org/wiki/Andreessen_Horowitz


ไม่มีความคิดเห็น: