วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563

เมื่อมนุษย์ทำให้ AI ประมวลผลเชิงอารมณ์ การรู้ดิจิทัลของเรา (Digital Literacy) ไม่เริ่มไม่ได้แล้ว

การประมวลผลเชิงอารมณ์หรือ“ AI ทางอารมณ์” ปรับแต่งประสบการณ์ตามพฤติกรรมความชอบและอารมณ์ของผู้ใช้แต่ละคน 

ในอดีตคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์กับอารมณ์ของมนุษย์หรือปัจจัยทางอารมณ์ได้ แต่สิ่งนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปเมื่อนักประดิษฐ์กำลังเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ให้กับ IQ ของเทคโนโลยีในระดับที่เหมาะสม การผสมผสาน AI 

 ในอนาคต ในอนาคตอันใกล้การโต้ตอบกับเทคโนโลยีของมนุษย์ที่ชาญฉลาดทางอารมณ์เช่นนี้น่าจะก่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ และวิธีการทำงานใหม่ ๆ

เช่นแอพจะถามคำถามที่อนุญาตให้ลูกค้าแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจความกังวลและความต้องการระยะยาวของพวกเขา นอกจากนี้ยังรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์การกุศลเป้าหมายของแต่ละบุคคลบุคคลสำคัญและความสัมพันธ์ อัลกอริทึมตรงกับความสนใจของลูกค้ากับเนื้อหาการบริหารความมั่งคั่งนำเสนอข้อมูลการลงทุนและการเงินที่เป็นส่วนตัว

การศึกษาพฤติกรรมจากน้ำเสียงผ่านการสนทนากับ AI ซึ่งจะทำให้ AI โต้ตอบกับมนุาย์แบบมีอารมณ์ ทำให้เกิดอรรถรส ในการสนทนา




สวมเอียร์บัดตรวจจับสมองที่มีอิเล็กโทรดที่วัดการทำงานของสมองชองมนุษย์ อุปกรณ์ มีลักษณะและการทำงานเหมือนเอียร์บัดบลูทู ธ มาตรฐาน สวมทางศรีษะ มันคือ electroencephalogram (EEG) แบบเคลื่อนที่ที่สามารถวัดและวิเคราะห์ระดับความเครียดและความฟุ้งซ่านให้ผู้สวมใส่  และได้รับข้อเสนอแนะทันทีเพื่อปรับปรุงสุขภาพประสิทธิภาพการทำงานหลังการประชุมเครียด

เมื่อ AI เรียนรู้อารมณ์ มนุษย์ต้องรู้ดิจิทัล

 เด็กยุคนี้เราอาจจะเรียกเขาว่า ชาวดิจิทัล เพราะเด็กๆยุคนี้จะสามารถมีส่วนร่วมเทคโนโลยี่ได้อย่างง่ายดาย เช่นการเข้าถึงสือส้งคมออนไลน์ การใช้งานวีดีโอสตรีมมิ่งหรือการถ่ายทอดสด

เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุการเข้าถึง หรือการรู้ดิจิทัล ดูจะน้อยมากและจะไม่ค่อยถนัดเวลาต้องใช้งาน เมื่อคนสองวัยมาเจอกัน ผู้สูงอายุก็จะไม่เข้าใจว่า ทำไมเด็กๆชอบอยู่แต่หน้าจอ ตลอดเวลา 

สำหรับผู้ที่ไม่รู้ดิจิทัล ก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐได้ ยกตัวอย่าง การลงทะเบียนเพื่อ ขอรับควาช่วยเหลือจากรัฐ ช่วง covid-19 

สมรรถนะสำหรับความรู้ดิจิตอลสามารถจำแนกตามสามหลักการสำคัญ: การใช้งาน การเข้าใจ และการสร้าง 

การใช้งาน (Use)แสดงถึงความคล่องแคล่วทางเทคนิคที่จำเป็นในการมีส่วนร่วมกับคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ทักษะและความสามารถที่อยู่ภายใต้การ“ ใช้” มีตั้งแต่ความรู้ทางเทคนิคขั้นพื้นฐานโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ เว็บเบราว์เซอร์ อีเมล และเครื่องมือสื่อสารอื่น ๆ ไปจนถึงความสามารถที่ซับซ้อนมากขึ้น ในการเข้าถึง และใช้แหล่งข้อมูลความรู้เช่นเครื่องมือค้นหา และฐานข้อมูลออนไลน์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นคลาวด์คอมพิวติ้ง

เข้าใจ (Understand)ว่าเป็นส่วนสำคัญ - เป็นชุดของทักษะที่ช่วยให้เราเข้าใจบริบทและประเมินสื่อดิจิทัลอย่างมีวิจารณญาณเพื่อให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำและพบทางออนไลน์ ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะสำคัญที่เราต้องใช้ในการเริ่มสอนลูก ๆ ทันทีที่ออนไลน์

ทำความเข้าใจรวมถึงการตระหนักว่าเทคโนโลยีเครือข่ายส่งผลต่อพฤติกรรมของเราและการรับรู้ความเชื่อและความรู้สึกของเราเกี่ยวกับโลกรอบตัวเราอย่างไร

นอกจากนี้ความเข้าใจยังเตรียมเราให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจแห่งความรู้ในขณะที่เราพัฒนาทักษะการจัดการข้อมูลแบบรายบุคคลและแบบรวมสำหรับการค้นหาประเมินและใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิผลเพื่อสื่อสารทำงานร่วมกันและแก้ปัญหา

สร้าง (Create) คือความสามารถในการผลิตเนื้อหาและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเครื่องมือสื่อดิจิทัลที่หลากหลาย การสร้างสรรค์ด้วยสื่อดิจิทัลเป็นมากกว่าการรู้วิธีใช้โปรแกรมประมวลผลคำหรือเขียนอีเมลซึ่งรวมถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนสิ่งที่เราผลิตสำหรับบริบทและผู้ชมที่หลากหลาย เพื่อสร้างและสื่อสารโดยใช้สื่อสมบูรณ์เช่นรูปภาพวิดีโอและเสียง และมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบกับเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นจาก Web 2.0 เช่นบล็อกและฟอรัมการสนทนาการแบ่งปันวิดีโอและภาพถ่ายการเล่นเกมบนโซเชียลและโซเชียลมีเดียรูปแบบอื่น ๆ

สิ่งที่ยังน่าห่วงคือ “ความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล” เพราะทุกช่วงวัยยังมีพฤติกรรมเสี่ยงในโลกออนไลน์ ทั้งการไม่เปลี่ยนรหัสผ่านทุก 3 เดือน การระบุวันเดือนปีเกิดในโลกออนไลน์ การทำธุรกรรมในเว็บธนาคารโดยไม่สังเกตURL  การคลิ๊กลิงก์ที่ไม่รู้จัก แชร์โลเคชั่นพิกัดของตนเอง ไม่ลบรหัสผ่านหลังใช้อินเทอร์เน็ตสาธารณะ ไม่ตั้งคำสั่งล็อคหน้าจออัตโนมัติหลังเลิกใช้งาน อัพโหลดบอร์ดดิ้งพาสในโซเชียลมีเดีย ฯลฯ โดยพบว่า Gen Z ที่อายุไม่เกิน 22 ปีเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองมากที่สุด ขณะที่ทุกช่วงวัยมีความตระหนักรู้อันตรายของพฤติกรรมเหล่านี้ต่ำมาก เช่น กรณีการอัพโหลดบอร์ดดิงพาสก่อนขึ้นเครื่อง มีคนรู้ว่าไม่ปลอดภัยเพียงร้อยละ 12

สิ่งที่สำคัญในยุคนี้ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะโลกของดิจิจทัลเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมีอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา ภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทักษะในการหาความรู้ การสืบค้น การสังเกตุ

ภายใต้ "การรู้ดิจิทัล" คือความหลากหลายของทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันซึ่งทักษะเหล่านั้นอยู่ภายใต้ การรู้สื่อ (Media literacy) การรู้เทคโนโลยี (Technology literacy) การรู้สารสนเทศ (Information literacy) การรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เห็น (Visual literacy) การรู้การสื่อสาร (Communication literacy) และการรู้สังคม (Social literacy)


 

ไม่มีความคิดเห็น: