วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563

รัฐบาลสิงคโปร์ ชวนประชาชนของเขา ดูแลสุขภาพผ่าน LumiHealth

 เห็นข่าวนี้ก็อดที่จะเอามาเล่าต่อไม่ได้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลสิงคโป และ บริษัทเอกชนอย่าง Apple และข่าวนี้ก็ วางแผนที่จะออกมาหลังจากที่มีการเปิดตัว Apple Watch ซีรี่ 6 เมื่อวันที่ 16 กันยาที่ผ่านมา ฟีเจอที่เพิ่ทเข้ามาในรุ่นนี้ก็คือ เซ็นเซอร์ที่สามารถวัด ออกซิเจนในเลือด ผ่านแสงสีแดงที่ส่องลงไปใต้ผิวหนังและสะท้อนกลับมาประมวลผล 



ระดับออกซิเจนต่ำ (Hypoxemia) คือ แรงดันออกซิเจนหรือค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนน้อยว่าปกติ นั่นคือการมีระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ต่ำกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท หรือมีค่าความอิ่มตัวในเลือดน้อยกว่า 96% การที่มีระดับออกซิเจนต่ำอาจเกิดได้จากการเป็นโรคโลหิตจาง โรคปอดเรื้อรัง โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดบวม หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดลมและปอด ภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งโรคเหล่านี้จะทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจึงเกิดภาวะขาดออกซิเจน ส่งผลให้มสมองทำงานและสั่งงานช้าลง หรือเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว หรือการเข้าไปอยู่ในสถานที่อับอากาศก็เป็นสาเหตุให้เกิดสภาวะออกซิเจนต่ำได้

อ้างอิงจาก[1] https://www.mcareshop.com/article/4/

Apple Inc.และรัฐบาลสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับโครงการด้านสุขภาพระยะเวลาสองปีที่เรียกว่า LumiHealth ซึ่งสร้างขึ้นจากการติดตามและให้รางวัลแก่พฤติกรรมของผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ Apple Watch และแอป iPhone

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ LumiHealth https://www.healthhub.sg/programmes/lumihealth#faq ซึ่งใช้กับประชาชนของสิงคโป ชาวสิงคโปร์จะสามารถรับรางวัลและบัตรกำนัลได้มากถึง S $ 380 ($ 280) โดยทำตามเป้าหมายและภารกิจที่กำหนดไว้ในแอป เป้าหมายสามารถทำได้โดยการเดินหรือทำแบบฝึกหัดอื่น ๆ เช่นว่ายน้ำหรือโยคะและแอป LumiHealth จะนำเสนอการฝึกสอนและการแจ้งเตือนส่วนบุคคลสำหรับการตรวจคัดกรองสุขภาพและการฉีดวัคซีน ความท้าทายด้านสุขภาพจะกระตุ้นผู้ใช้ให้เลือกอาหารที่ดีขึ้นและปรับปรุงพฤติกรรมการนอนหลับ

โครงการนี้ ประชาชนต้องมี Apple watch ซีรี่ย์ 3 ขึ้นไปจึงจะเข้าร่วมโครงการได้

รองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าวว่า “ แม้ว่าเราทุกคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายของ COVID-19 เราก็ต้องลงทุนต่อไปเพื่ออนาคตของเรา และไม่มีการลงทุนใดที่ดีไปกว่าสุขภาพส่วนตัวของเราเอง”

สำหรับเซ็นเซอร์ของ Apple Watch นั้น เมื่อปี 2019 กับ Apple Watch รุ่นก่อนหน้านั้น นักวิจัยจาก Stanford University School of Medicine ได้นำเสนอผลการศึกษาเบื้องต้นของ Apple Heart Study โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 400,000 คน นักวิจัยรายงานว่าเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้สามารถระบุความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างปลอดภัยซึ่งการทดสอบในภายหลังยืนยันว่าเป็นภาวะหัวใจห้องบนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดสมองและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา

ข้อค้นพบที่สำคัญจากการศึกษา ได้แก่ :

  • โดยรวมแล้วมีผู้เข้าร่วมเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับชีพจรที่ผิดปกติซึ่งเป็นการค้นพบที่สำคัญเนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการแจ้งเตือนเกินที่อาจเกิดขึ้น
  • การเปรียบเทียบระหว่างการตรวจจับชีพจรที่ผิดปกติบน Apple Watch และการบันทึกแพทช์คลื่นไฟฟ้าหัวใจพร้อมกันแสดงให้เห็นว่าอัลกอริธึมการตรวจจับชีพจร (ระบุการอ่านค่าทาโคแกรมเป็นบวก) มีค่าทำนายผลบวก 71 เปอร์เซ็นต์ แปดสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของเวลาผู้เข้าร่วมที่ได้รับการแจ้งเตือนชีพจรผิดปกติพบว่าอยู่ในภาวะหัวใจห้องบนในเวลาที่ได้รับการแจ้งเตือน 
  • หนึ่งในสาม (ร้อยละ 34) ของผู้เข้าร่วมที่ได้รับการแจ้งเตือนชีพจรผิดปกติและติดตามโดยใช้แพทช์ ECG ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาพบว่ามีภาวะหัวใจห้องบน เนื่องจากภาวะหัวใจห้องบนเป็นภาวะที่ไม่ต่อเนื่องจึงไม่น่าแปลกใจที่จะตรวจไม่พบในการตรวจติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจในภายหลัง 
  • ห้าสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือนชีพจรผิดปกติขอความช่วยเหลือจากแพทย์

สำหรับการศึกษาผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะต้องมี Apple Watch (ซีรีส์ 1, 2 หรือ 3) และ iPhone Apple Watch

ส่วน Apple Heart Study ไมไ่ด้มีบริการในประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น: