วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564

GULF ซื้อหุ้น INTUCH ประโยชน์ จาก 5G

จากการที่เป็นข่าวไปเมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาว่าบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ นั้นได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น บริษัทอินทัช 15% ตามมติบอร์ด วันนี้เลยมาวิเคราะห์กันหน่อยครับว่า การเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ ได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วจะนำ 5G มาใช้อย่างไรกับธุรกิจของ GULF

GULF เป็นบริษัทที่ลงทุนด้านธุรกิจพลังงาน ลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานจนกระทั่งกลายเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ โดยมีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต25ปี  ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GULF ก็คือ คุณสารัชถ์  รัตนาวะดี มีสัดส่วนการถือหุ้น บมจ.กัลฟ์เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ อยู่ที่ 35.5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้  GULF ก็ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานให้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยหลักแล้ว ธุรกิจ GULF มีโครงสร้างแบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจก็คือ1)ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 2)ธุรกิจโรงงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งบนหลังคา และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และ 3)ธุรกิจอื่นๆก็ เช่น บริษัทจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติทางท่อ ธุรกิจให้บริการบริหารจัดการโครงการไฟฟ้า 

พูดถึงคุณสารัชถ์ รัตนาวดี เป็นนักธุรกิจสายเลือดทหาร เป็นบุตรของ พลเอก ถาวร รัตนาวดี กับคุณแม่ ประทุม รัตนาวดี  ซึ่งเป็นน้องสาวของคุณวารินทร์ พูนศิริวงศ์ เจ้าของหนังสือพิมพ์แนวหน้า ส่วน ภรรยา ของคุณสารัชถ์ เป็นลูกสาวของ คุณรักษ์ ตันติสุนทร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในยุครัฐบาลคุณชวนหลีกภัยเมื่อปี 53 และเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก 2 สมัย ปัจจุบัน คุณสารัชถ์ รัตนาวดี คือ แชมป์เศรษฐีหุ้น อันดับ 1 ของไทย


กลับมาดูเรื่องของการเข้าซื้อหุ้น INTUCH โดยการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ซึ่งการสะสมหุ้นนั้นก็ทยอยสะสมมา ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ปีที่แล้วพบว่าถือหุ้นอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์และเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 ทางบริษัทเอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ก็ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าเขาเข้าลงทุนหุ้นครบทั้งหมด 15% ตามมติ โดยการรับซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ 

                   

หากในอนาคต GLUF ถือหุ้นมากกว่า 50% จะทำให้บริษัทมีอำนาจในการที่จะ เข้ามาควบคุมกิจการได้ รวมถึงอาจมีการทำคำสั่งเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ Advance แต่มีการยื่นคำร้องว่าจะไม่ขอ เข้าถือหุ้นในบริษัทไทยคม จากการรายงานข่าวปัจจุบัน INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใน Advance 40.45 เปอร์เซ็นต์และไทยคม 41.13 เปอร์เซ็นต์

เรามาดูกันครับว่าใครได้ประโยชน์

ในระยะสั้นนั้น ทาง ทางผู้บริหารระดับสูงของ GLUF ก็ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เพื่อช่วยต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานจากธุรกิจเดิมด้านพลังงานไปสู่ธุรกิจใหม่ ด้วยดิจิตอลในอนาคต และเป็นการลงทุนเพื่อรับปันผล

แต่เราก็ทราบกันดีครับว่าในยุคปัจจุบัน ดิจิทัล เข้าไป มีบทบาทในธุรกิจหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของ Internet of things (Iot) ที่ต้องการโครงข่าย 5G  

หากการที่ GLUF สามารถซื้อหุ้นของ INTUCH สำเร็จ จะนำมาสู่การเปลี่ยนมือ ผู้เข้ามาบริหารบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจากสิงคโปร์ Communication หรือสิงเทลซึ่งก็น่าจะส่งผลดีกับ ADVANC เพราะจะได้มีผู้บริหารเป็นคนไทย แล้วบริษัทก็จะกลับมาเป็นบริษัทคนไทย อย่างเดิม

การที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมส่งผลดีต่อนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่กับ GLUF เพราะการขายพลังงานให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้นถึงจะมีสัญญา ระยะยาว 25 ปีก็จริงแต่รายได้นั้น จะเติบโตอย่างช้าๆ และถ้าหากมีธุรกิจโทรคมนาคมเข้ามา ด้วยนั้นก็จะทำให้ผลตอบแทน เพิ่มสูงขึ้นด้วย

การใช้ประโยชน์ จาก 5G เพื่อเสริมธุรกิจ

GLUF ได้เข้าร่วมกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ราชกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลโครงการติดตั้งและบริหารระบบเก็บเงินมอเตอร์เวย์บางปะอินโคราชและบางใหญ่กาญจนบุรี ซึ่งโครงการนี้ก็ต้องใช้โครงข่ายโทรคมนาคมอีกเช่นเดียวกัน

และให้มองลึกไปกว่านั้นที่จะมาเสริมเขี้ยวเล็บให้กับการผลิตไฟฟ้านั่นก็คือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ(5G smart power grid )ซึ่งก็ต้องใช้โครงข่ายเทคโนโลยี 5G เช่นกัน โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือที่เราเรียกว่าสมาร์ทกริดเป็นโครงข่ายไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และ Big Data มาบริหารจัดการ โดยที่จะนำโรงไฟฟ้าทั้งหมดมาประเมินว่าจะเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตยังไงให้เหมาะสมต่อความต้องการ การใช้ไฟฟ้า แน่นอนก็ต้องอยู่กับเครือข่าย 5G 

ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าด้วยโซล่าเซลล์และขายคืนกลับไปยังการไฟฟ้านั้นได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะ บ้านของประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะ ประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือนก็มีการติดตั้งโซล่าเซลล์ และผู้ใช้งานสามารถ ติดตามการผลิตและการใช้ไฟของบ้านตัวเองผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมและหากว่าเป็น 5G ก็จะทำให้ ข้อมูลที่ส่งผ่านนั้นมีความรวดเร็วและมีเสถียรภาพ และถ้าสามารถทำงานร่วมกับระบบ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะจะเกิดประโยชน์กับบ้านที่ผลิตไฟฟ้าอีกด้วย

ดังนั้น ADVANC จะได้นำ 5G มาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่และมีโซลูชั่น รองรับหลายอย่างดังที่ได้กล่าวมา

ข้อมูลอ้างอิง

ข้อมูล INTUCH จาก ตลท https://www.set.or.th/set/companyholder.do?symbol=INTUCH&ssoPageId=6&language=th&country=TH

ข้อมูล GLUF จาก ตลท https://www.set.or.th/set/companyholder.do?symbol=GULF&ssoPageId=6&language=th&country=TH

ข้อมูลเกี่ยวกับคุณ คุณสารัชถ์ รัตนาวดี https://www.prachachat.net/prachachat-hilight/news-650899

ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/921026


ไม่มีความคิดเห็น: