วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

ก่อนเปิดพอร์ตเทรดเหรียญดิจิทัล อ่านเรื่องนี้ก่อน

 ช่วงนี้การซื้อเหรียญดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ (cryptocurrency) กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนหน้าใหม่ ว่าจะเปิดพอร์ตเทรด เหรียญคลิปโต กับโบรคเกอร์ไหนดี บทความนี้อาจจะไม่ได้มีคำตอบโดยตรงว่า เทรดกับใครดีแต่อยากจะให้พิจารณากันหลายเรืองด้วยกันก่อนจะเสียโอกาศในการลงทุน


1. การเปิดบัญชีชื่อขายจะต้องมีการส่งเอกสารยืนยันตัวตนของเช่นรูปถ่ายบัตรประชาชน หรือถ้าเป็นของโบรคเกอร์ต่างประเทศอาจจะต้องถ่ายรูปเราถือคู่กับหนังสือเดินทางและต้องให้เห็นชัดไม่เบรอ บางโบรคเกอร์ให้เราส่งภาพถ่ายทางออนไลน์ 

*ข้อควรระวังทุกอย่างต้องถ่ายชัดและต้องใช้เวลาในการอนุมัติไม่นานเกินไปเช่นบางโบรคเกอร์ใช้เวลา 1 - 2 วันทำการในการอนุมัติทีละขั้นตอน บางโปรคเกอร์ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

2. เมื่อเกิดปัญหา มีช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนกี่ช่องทาง หรือ ให้คุยทาง Chat อย่างเดียว และถ้าเป็น Chat อย่างเดียวรอคิวนานหรือไม่ บางโบรคเกอร์คนสมัครใช้เยอะมาก รอคิวเกือบ 50 คิวพอเหลือไม่กี่คิวระบบหมดเวลาต้องไปเริ่มเข้าคิวใหม่ 

3.ฝากเงินผ่านระบบดิจิทัลหรือใช้โอนเงินแล้วยืนสลิป อาจจะมีให้เลือกทั้งสองอย่างก็ได้

*คำเตือนการฝากเงินเข้าไปให้ลองฝากครั้งแรก 100 บาทก่อนเพราะหากฝากเงินเข้าไปแล้วเงินไม่เข้าบัญชีซื้อขายจะได้ไม่เสียดาย หากฝากเงินด้วยการโอนเงินแล้วแสดงสลิป หากฝากผ่านไปแล้วหลายชั่วโมงเงินไม่เข้าบัญชี ก็ต้องติดต่อฝ่าย Support หรือฝ่ายสนับสนุน แล้วถ้าติดต่อไม่ได้ก็จะเสียโอกาศอีกเช่นกัน

4. โบรคเกอร์มีกระเป๋าเงินสำหรับคริปโต หรือไม่เผื่อเอาไว้สำหรับการโอนเหรียญไปยังที่อื่นได้หรือเอาไปใช้จ่ายต่อไป

5. ก่อนซื้อเหรียญควรตรวจสอบ ระบบการซื้อขายว่า Realtime หรือไม่บาง ทีราคาลงไปเยอะแล้วเรายังเห็นราคา ยังนิ่งๆอยู่ซึ่ง ใครเคยเทรดหุ้นน่าจะเข้าใจว่าราคาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายวินาที

6.ตรวจสอบกับโบรคเกอร์ต่างประเทศว่าราคาเหรียญที่ไม่ใช่บิทคอย ที่ต่างประเทศเขาซื้อขายกันราคาเท่าไหร่ เมื่อไม่นานมานี้เกิดเหตุการกับเหรียญ CTXC ที่ราคาบางโบรคเกอร์สูงถึง 200 บาทแต่ในต่างประเทศเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2 ถึง 3 บาท ทำให้วันเดียวราคาเพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต กว่าจะรู้ว่าระบบมีปัญหา

7.ศึกษาเหรียญดิจิทัลบางเหรียญว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรและทำไมในต่างประเทศประกาศจะไม่ให้ทำการซื้อขาย เช่น  XRP ที่ทาง ก.ล.ต สหรัฐจะทำการฟ้องเพราะไม่ได้รับอนุญาตและจะให้ถอดออกจากตลาดซื้อขาย แต่ นักลงทุนบางกลุ่มยังซื้อขายกันอยู่ เนื่องจากการกระจายเหรียญของ XRP หรือชื่อเต็มว่า Rippel ผู้บริหารสองคนเอาเหรียญส่วนตัวไปกระจายขายกันก่อนตั้งแต่ปี 2013 มูลค่า 600 ล้านดอลล่า

ในเรื่องนี้ไม่มีโบรคเกอรไทยขึ้นประกาศเตือนให้ระวังการซื้อขาย

8. หาข้อมูลว่าในแต่ละโบรคเกอร์คริปโตเคอเรนซี่ ไทยคนไหนได้รับอนุญาติ จาก ก.ล.ต บ้าง 

ตรวจสอบได้ที่ https://www.sec.or.th/th/pages/shortcut/digitalasset.aspx หมายเหตุ bx.in.th ปิดกิจการไปแล้ว

9. มีใครบ่นเรื่องต่าง ๆ ที่เกียวข้องมาทั้งหมดนี้ตามกลุ่ม Facebook ต่างๆหรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจ

ข่าวเด่นอื่น ๆ สัปดาห์นี้

1. อินเตอ์เน็ทฟรีเพราะแอปหมอชนะ 
จากการระบาดของ Covid-19 ในรอบใหม่นี้หลังจากที่ได้เชิญชวนกันติดตั้งแอปพลิเคชั่น หมอชนะ ทำให้หลายคนพบว่า ปริมาณการใช้อิเตอร์เน็ทสูงมากขึ้นจนผิดสังเกตุ บางคนโดนไป 20 กิกกะไบท์ ส่วนตัวผมโดนไป 500 เมกกะไบท เป็นปริมาณครึ่งหนึงของ 1 กิกกะไบท์ หากมีการใช้ข้อมูลสูงกว่าปกติแบบกรณีแรกต้องติดต่อผู้ให้บริการ และเมื่อวันอังคารที่ 12 มาตรการของรัฐ ให้สามค่ายมือถือจะให้ใช้อิเตอร์เน็ทฟรี 3 เดือน และไม่ให้คิดค่าใช้จ่ายกับข้อมูลหมอชนะ

2.ถึงคราวที่ Twitter ถอดบัญชี QAnon 70,000 บัญชีในสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้ถอดบัญชีกลุ่มนี้ไป 7000 บัญชี มาคราวนี้ก็ถอดออกไปเพิ่มอีก ซึ่งจะเห็นว่า Twitter เอาจริงกับเรื่องนี้เพราะเกรงว่า จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทำให้เกิดความไม่สงบเช่นเดียวกับที่ถอดบัญชี IO ไทยจะแตกต่างตรงที่ IO ไทยที่ถูกถอดไปเป็นกลุ่มจัดตั้ง

3.และสุดท้าย Parler เป็น Social media เนื่องจากไม่สนใจโพสต์ที่ส่งเสริมความรุนแรง กลุ่มทีสนับสนุนทรัทป์ ทำให้เมื่อวันเสาร์ Apple และ google รวมถึง amazon web service ได้เอาแอป Parler ออกจาก store เป็นที่เรียบร้อย ถึงไม่มี Parler ก็ไม่เป็นไร ฝรั่งหลายคนบอกว่า งั้นไปใช้ Telegram ก็ได้ ส่วน Elon Musk ได้ twitt บอกว่าคุณควรใช้ Signal แทน Facebook เพราะ มันปลอดภัย เขาเองก็ใช้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่Musk พูดถึง Facebookในเรื่องความเป็นส่วนตัว ในปี 2018 เขาได้ ลบหน้า Facebook ส่วนตัวของตัวเอง และลบหน้าเพจ บริษัท ของเขาอย่างTeslaและSpaceXด้วย 


ไม่มีความคิดเห็น: