วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Smart Cities เมืองอัจฉริยะต้องเตรียมความพร้อมเรื่องภัยในCyber

เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกหลายประเทศกำลังนำเอาเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ มาใช้เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการ บริการสาธารณะ ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า การจัดการขยะ การจัดการจราจร รวมถึงการแจ้งเตือนภัยต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม .ในประเทศไทยตอนนี้เพิ่งจะเริ่มโครงการต่างๆไปบ้าง เช่น ระบบตรวจจับการผ่าไฟแดงของรถยนต์ หลายคนคงจะเคยได้รับใบสั่งจากกล้องพวกนี้กันมาบ้างแล้วตามสี่แยกต่างๆ การตรวจจับความเร็วในถนนหลวง ซึ่งจะสังเกตได้ เมื่อเวลาออกไปต่างจังหวัด จะมีเตือนและแจ้งว่าตอนนี้ความเร็วของเรา เท่าไหร่ บางคนอาจได้รับใบแจ้งค่าปรับกันมาแล้ว
การจราจรของ http://live.iticfoundation.org/ เพื่อการวางแผนการจราจร ในประเทศไทยยังไม่มีการเอาระบบตัดสินใจอัตโนมัติมาใช้ร่วมกับการจัดการปัญหาจราจร แต่ในบางประเทศได้เริ่มไปแล้ว มีการเชื่อมต่อกับ กล้อง CCTV จำนวน 251 ตัว

การใช้ข้อมูลเรื่องสภาพอากาศ ด้วยเรด้าของ กองพยากรอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

ส่วนในโครงการอื่นที่มีการประกวดโมเดลที่จัดโดยกระทรวงพลังงาน โดยเว็บไซต์ thailandsmartcities.com มี 7 โครงการที่ผ่านเข้ารอบ 
1. นิด้า มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ รู้รักษ์หลังงาน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
2. มข (เมือง) มหาวิทยาลัยอัจฉริยะพลังงานสะอาด
3. เมืองจุฬา อัจฉริยะ
4. ธรรมศาสตร์ ศูนย์นังสิต ต้นแบบเมืองมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ
5. วิสซ์ดอม วันโอวัน
6. ของแก่น smart city ระยะที่ 1 ขนส่งสาธารณะเปลี่ยนเมือง
7. เมืองใหม่อัจฉริยะบ้านฉาง

ในขณะที่บ้านเรากำลังเริ่มต้น ในต่างประเทศเอง ก็ได้มีการแจ้งเตือนว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าจากบางบริษัทมีนักวิจัยจาก IBM และ Threatare ค้นพบช่องโหว่ใหม่ 17 ช่องกับระบบสมาร์ทซิตี้ทั่วโลก เช่นสามารถเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรและคำเตือนจากภาวะน้ำท่วม ซึ่งผลการวิจัยที่ค้นพบพวกเขาได้เผยผลการวิจัยในที่ประชุม Black Hat cybersececurity ในลาสเวกัส เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้ทำการติดต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องให้ทำการแก้ไข ช่องโหว่เหล่านี้เป็นตัวอย่างของความเสี่ยงและอาจจะมีที่นักวิจัยยังไม่พบ
นักวิจัยลอกว่าระบบ Libelium , Echelon และ Battelle ที่ถูกใช้ในการตรวจจับอุทกภัยในอาร์เจนตินา  การควบคุมไฟในฝรั่งเศส และ การตรวจสอบการจราจรในรัฐแมสซาซูเซตส์ ตามกรณีศึกษา ทาง Echelon บอกว่าได้รับการยืนยันช่องโหว่และแจ้งให้ลูกค้าทราบและทำการปรับปรุง ส่วนโฆษกของ Battelle กล่าวว่า บริษัท ได้ออกแบบส่วนของ Interface ให้ปลอดภัย ส่วน Libelium ก็ได่ทำการปรับปรุงความปลอดภัยในส่วนนี้แล้ว

นักวิจัยบอกว่าการบุกรุกที่อาจจะะเกิดขึ้นทำให้เกิดความตระหนกในเมืองต่างๆ เช่น สัญญาณเตือนที่ผิดพลาด ด้วยการหลอกด้วยสัญญาณวิทยุหลอกลวงแล้วทำให้ไซเรนพายุทอร์นาโดทำงาน

การตรวจสอบจำนวนรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนเพื่อช่วยควบคุมสัญญาณจราจร ถ้า แฮกเกอร์เข้าไปป่วนก็จะสามารถทำให้การจราจรแย่ลงไปเลย

ระบบแจ้งเตือนน้ำท่วมจะแจ้งเตือนเมื่อพบน้ำแค่หยดเดียว นักวิจัยพบว่าอุปกรณ์ออนไลน์จำนวนมากยังคงใช้รหัสเริ่มต้นที่ติดมากับโรงงาน

ในประเทศไทยหากมีการช่วยกันค้นพบช่องโหว่แบบนี้นักวิจัยอาจจะเป็นผู้ร้ายไปเลยก็ได้เพราะเนื่องจากความคิดเรื่องนี้บ้านเราหลายคนที่เกี่ยวข้องยังรับความจริงไม่ได้ เพราะจริงๆแล้วระบบไม่มีอะไรที่ปลอดภัย100% แต่ก็ต้องเฝ้าระวังและรับมืออย่างรวดเร็ว มีทีมวิจัยของตัวเองที่คอยตรวจสอบช่องโหว่ของอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย เพราะช่องโหว่ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการลองซ้ำ ๆ ผมขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นรหัสบัตร ATM 4 หลักลองเอาเลข 0000 ถึง 9999 มาลองใส่ก็ต้องเจอเข้าสักอัน การลองที่ละชุดเป็นเรื่องพื้นฐาน บางคนใช้วิธีแบ่งครึ่งแล้วเลือกก็อาจจะพบเร็วกว่า วิธีการหา เราเรียกว่า อัลกอริทึม




วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสมาร์ตโฟน ที่มีมากขึ้น

ปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการนำ AI มาใช้กับสมาร์ตโฟน AI เริ่มตั้งแต่ iPhone X ที่นำหน่วยประมวลผลกลางที่มี AI ที่เรียกกันว่า Apple A11 มาใช้วิเคราะห์ใบหน้าเพื่อการปลดล็อกหน้าจอ เราก็เริ่มที่จะเห็นแอพพลิเคชัน และ อุปกรณ์ที่ มี AI เข้ามาเกี่ยวข้องขึ้นเยอะมากในปีนี้ Samsung ก็มี Exynos 9810 ที่ใช้ใน Galaxy S9 ค่าย  อื่นๆ ที่ตามมาก็มี Huawei ที่นำมาใช้ในเรื่องของการถ่ายภาพ เช่นลดการสั่นไหว และการถ่ายภาพที่มีแสงน้อย Xiaomi ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm MSN8953 Snapdragon มาช่วยในคน ที่รักการถ่ายภาพ เซลฟี่ ดูหล่อดูสวยขึ้น

สำหรับค่ายซอฟต์แวร์ที่พบว่าจะนำ AI มาใช้ช่วยในการแต่งภาพ ก็อย่างเช่น Adobe System ก็ได้ลงทุนกับ. Sensei AI Technology เพื่อนำมาใช้กับการแต่งภาพตัดต่อภาพด้วย photoshop และ Premiers Pro ในงานตัดต่อวีดีโอ

ในส่วนของการใช้งานโทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงเว็บไซต์ google สำรวจพบว่า 61% ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลผ่านทาง สมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบัน google จะให้คะแนนกับเว็บไซต์ที่รองรับกับหน้าจอ สมาร์ทโฟน

เมื่อ มี สมาร์ตโฟน ผู้คนส่วนใหญ่ก็สืบค้นซื้อสินค้า ชมภาพยนตร์  อ่านเรื่องราวต่างๆผ่าน ทางช่องทางนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ นักการตลาด นักการเมือง จะอาศัยช่องทางนี้เพื่อเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจึงได้ยินคำว่า BI หรือ Businesses Intelligences  มากขึ้นๆ นั่นก็เหมือนกับว่า เราถูก AI จับความเคลื่อนไหวตลอดเวลา การต่อสู้กัน ในเรื่องของคำค้น หรือ keywords ที่ใช้สอบถาม Siri หรือ Google ส่วนตัวผมคิดว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ AI เกิดการเรียนรู้ แล้วส่ง รายการสินค้าที่ต้องการ ภาพยนตร์ แนวที่ชื่นชอบ หรือข้อมูล. ที่กำลังค้นหา

หลายๆคนเริ่มกังวลว่า โทรศัพท์ของเราทำไมมันฉลาดขึ้น มันเข้ามาสอดรู้สอดเห็นเรื่องราวของเรา ยิ่งต้องทำให้คนในแวดวงที่มีชื่อเสียง นักการเมือง ต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะแค่วันนี้คุณแค่สนใจอยากเลือกชุดชั้นใน ไปเซอร์ไพรส์ ภรรยา มันก็จะส่งรายการสินค้าไปโฆษณาที่หน้าเว็บที่คุณเข้าไป คนก็จะเข้าใจผิดได้ หรือพนักงานคนไหน อยากเปลี่ยนงาน นายจ้างจะวิเคราะห์ได้ทันทีจากหน้าจอ โฆษณา

วันนี้ยกเรื่องราวของ สมาร์ตโฟนเอไอ ขึ้นมาก็เพราะ มีข่าวจาก CNN ว่า พรรคเดโมแครตประกาศแจ้งเตือนทีมงานและสมาชิกพรรค ไม่แนะนำให้ใช้ สมาร์ตโฟนของ ZTE และ Huawei หลังจากที่คณะกรรมการของพรรค จะมีการซื้อสมาร์ตโฟนจาก ZTE มาให้ทีมงานใช้ ประเด็นนี้น่าจะมาจากการประกาศเตือนของ FBI NSA CIA เหตุผลทางด้านความมั่นคง  เพราะสองบริษัทนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน จะเป็นช่องทางให้สายลับจีนมาล้วงข้อมูลสำคัญ เช่น งานวิจัยใหม่ๆ ในห้องวิจัยของภาครัฐ ทาง Huawei ก็ตอบโต้ว่าสินค้าของบริษัทมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย พอๆกับบริษัทอื่นๆ และยังได้รับความเชื่อถือจากรัฐบาลอื่นๆ มากกว่า 170 ประเทศ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ รายงานล่าสุดของ Huawei เปิดเผยผลประกอบการใน ครึ่งปีแรกของ ปี 61 รวมรายได้ 325.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 15%